Innocen't devil
เล่ม 1และ 2 ยังมีอยู่นะคะ
 
ราคาหนังสือ
Innocent's devil เล่ม1 185บาท
Innocent's devil เล่ม2 235บาท

1. สำหรับผู้สั่งซื้อ เล่ม 1 และเล่ม2 = 235(เล่ม2)+185(เล่ม1)+17ซองกันกระแทกC4+70(ลงทะเบียน)
รวมต้องชำระ 507 บาท
2.สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ เล่ม 2 = 235+17(ซองกันกระแทก)+50(ลงทะเบียน)
รวมต้องชำระ 302 บาท
3.สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ เล่ม 1 = 185+17+50
รวมต้องชำระ 252  บาท

วิธีการแจ้งโอนเงิน
เลขที่บัญชี 736-2-28423-0
  >>>เช็คชื่อบัญชีดีๆนะคะระวังผิด(Morakot W.)<<<
ธนาคาร กสิกรไทย สาขาย่อยถนนรามคำแหง
--------------------------------
หมายเหตุ : หลังแจ้งการโอนเงินแล้ว
กรุณาอีเมล์บอก(subject : ค่าหนังสือ IND)
เมล์ aphrodite_eve@hotmail.com
1.ชื่อ -นามสกุลที่จะให้จัดส่ง
2หนังสือเล่มที่ต้องการซื้อ ยอดการโอน(ลงท้ายเป็นเศษสตางค์)
3.หลักฐานการโอนเงิน เวลาที่โอน สาขา หรืออะไรก็ได้ที่ระบุว่าท่านเป็นผู้โอนเงิน ทางผู้แต่งจะได้สามารถเช็คได้นะคะ
ปล. มีปัญหาอะไรสามารถ เมล์มาสอบถามได้นะคะ หรือจะทิ้งไว้ในfacebook ก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ
 
 
 

12.7.55

Trap of the next Door 05

“ฮัดชิ้วๆๆ” ทางด้านคนที่กำลังถูกพูดถึงก็ถึงกับทำจมูกฟุดฟิด อยู่ๆก็เกิดจามขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุเสียอย่างนั้น

“เป็นหวัดเหรอพี่บรีซ” เฟียส หนุ่มน้อยหน้ามนที่เพิ่งจะมาฝึกงานที่บริษัทแห่งนี้ได้ไม่กี่อาทิตย์ถามขึ้น เมื่อเห็นว่าบรีซ เอาแต่จามจนจมูกของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้วด้วยความเป็นห่วง

“ไม่รู้สิเฟียส แพ้อากาศมั้ง หรือว่ามีใครแอบนินทาก็ไม่รู้” บรีซพูดติดตลก

“ให้ผมหายาให้มั้ย”
“น้องเฟียสจ๋า..ขานั้นน่ะไม่ต้องเป็นห่วง พี่สิคะน่าเป็นห่วง” เสียงแซวของอิง เพื่อนร่วมบริษัทของบรีซเอ่ยขึ้น พร้อมเสียงผิวปากของเพื่อนๆหนุ่มๆในบริษัทอีกหลายคน ที่ต่างก็รู้ดีว่าหนุ่มน้อยคนนี้ดูจะห่วงใยบรีซเกินกว่ารุ่นพี่หรือเพื่อน ร่วมงานคนอื่นๆ และก็ดูเหมือนจะมีเพียงเจ้าตัวคนโดนสนใจเพียงคนเดียวละมั่งทีไม่รู้ว่ารุ่น น้องกำลังคิดอะไรกับเธออยู่

“เป็นอะไรกัน”บรีซปรายตามองคนอื่นๆ เท่านั้นแหละเสียงที่เคยโห่ฮา ก็เงียบลงในฉับพลัน
“ยัยอิง มานี่หน่อย” บรีซรีบเดินไปหาเพื่อนซี้ที่กำลังจัดพล็อต อยู่ในฉากที่กำลังจะถ่ายทำในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

“อะไรๆ”อิงเดินตามเพื่อนที่กึ่งจูงกึ่งกระชากให้เดินตามบรีซไปอีกมุมหนึงของห้อง
“ฉันลืมเอาโปรดักส์มา” บรีซกระซิบบอกเพื่อนเบาๆ
“ห๋า......ไอ้บ้าบรีซจะถ่ายอยู่แล้วดันไม่มีโปรดักส์ แล้วจะทำไงเนี่ย” อิงนภา หรืออิง ตกใจรีบมองนาฬิกาข้อมือ “ชั้นโทรบอกเมนเซนเจอร์แล้ว อีกครึ่งชม น่าจะถึง..ถ้ารถไม่ติด” บรีซหน้าซีดกระซิบบอกเพื่อน “เดียวโดนเฮียแก อาละวาดแน่” อิงหมายถึงเฮียติง ผู้กำกับมือทองที่มักจะเป็นผู้ผลิตผลงานขั้นเทพให้กับบริษัทของเธอเกือบทุก ตัว และแน่นอนว่าอารมณ์สุดยอดติสแตกของเฮียติงนั้นก็ไม่เป็นรองใครเช่นกัน

“ไอ้บริ๊งอยู่ห้องเปล่า”อิงนภาทำท่านึกแล้วถามถึงน้องสาวของเพื่อนรัก “อยู่ แล้วไงอะ” บรีซมุ่นหน้างงๆไม่เข้าใจว่าถ้าบริ๊งอยู่แล้วจะช่วยอะไรได้อย่างนั้นเหรอ “ไอ้ปิ๊กไปเรียกกรมผังเมืองมาสิ” อิงนภาเหมือนจะนึกอะไรออกสั่งลูกน้องให้ไปเรียก ทีมงานอีกคนที่เชี่ยวชาญเส้นทางและการขนส่งภายในกรุงเทพ จนได้รับฉายาว่ากรมผังเมืองให้รีบมาหาพวกเธอ อิงนภาจัดการสอบถามเส้นทางจากกรมผังเมือง บรีซได้แต่ยืนมองงงๆ ไม่กี่นาที อิงก็ยื่นกระดาษที่เขียนด้วยลายมือหวัดๆส่งให้บรีซ
"โทรไปบอกให้ไอ้บริ๊งขนมาแล้วมาตามเส้นทางที่ฉันเขียนให้แก รับรอง ไม่เกิน15นาทีถึง” อิงนภาตบไหล่เพื่อนเบาๆราวกับว่าปัญหาทั้งหมดได้ถูกคลี่คลายลงแล้ว “พูดเป็นเล่น” บรีซยังลังเลไม่แน่ใจว่าที่อิงพูดนั้นจะสามารถเป็นไปได้ “หรือจะรอเฮียติงมาด่าก็ตามใจแก”อิงนภายักไหล่แล้วไปจัดการกับงานที่ยัง ค้างอยู่

“เป็นไงเป็นกัน” บรีซถอนหายใจแล้วคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาน้องสาวทันที


“บริ๊ง ...โทรศัทพ์” ภัทรที่เอนตัวนอนดูทีวีอยู่ในห้องของสองศรีพี่น้องตะโกนเรียกบรีงที่กำลัง ขะมักเขม้นทำความสะอาดห้องน้ำอยู่ “ค่าๆๆๆ” เจ้าบริ๊งชะโงกหน้าตอบแล้วรีบวิ่งมารับโทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆโซฟาทันที
“ว่าไงเจ๊ มีอันหยัง” บริ๊งแปลกใจเมื่อเห็นว่าคนที่โทรมานั้นเป็นพี่สาวสุดโหดของตัวเอง
“ห๋า...ไม่มีทาง โนว์ โนว์ โนว์” ณภัทรเงยหน้าขึ้นมามองเมื่อเห็นว่าบริ๊งเหมือนจะทะเลาะกับคนปลายสายมากกว่า จะคุยกัน “เชอะเรื่องอะไร คราวที่แล้วตัวเองทำไรกับเค้าไว้ จำได้ม๊าย คราวนี้อย่าหวัง ม่ายยยยยยมีทางงงง” เจ้าบริ๊งตะโกนเสียงดังกรอกเข้าไปในโทรศัพท์

“อะไรนะ...ไม่ 3000 ไม่ต้อง 3000 ไม่งั้นไม่ไป” ณภัทรยิ้มขำ บริ๊งเหมือนกำลังต่อรองราคาอะไรซักอย่างอยู่ เธอมองสาวน้อยท่าทางทะโมนเดินวนไปวนมาเถียงกับคนในโทรศัพท์อยู่ซักพัก ก็หันไปสนใจกับภาพยนต์ในทีวีต่อ
“งืมๆ...โอเค...ตรงนั้นนะ โอเค โอเค...จดแล้วเจ๊ จดอยู่ไม่หลงหรอกน่า” บริ๊งตะโกนกรอกใส่หูโทรศัพท์อีกครั้ง

“อืมๆ รู้แล้ว จะหอบไปหมดเลย อืมหลังโต๊ะเห็นแล้วๆ” เจ้าบริ๊งเดินไปที่หลังโต๊ะทำงานของบรีซก็เห็นกองโปรดักส์ที่บรีซลืมทิ้งไว้ “อือๆ ออกเดียวนี้แหละ...อย่าลืมนะ 3000” เจ้าบริ๊งย้ำอีกครั้งแล้วกุลีกุจอรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า คว้าโปรดักส์ทั้งหมดลงถุงด้วยความรีบร้อน “เอ้า จะไปไหนเหรอบริ๊ง” ณภัทรถามที่เห็นบริ๊งรีบวิ่งแจ้นออกมาจากห้องพร้อมชุดที่เปลี่ยนเรียบร้อย แล้ว “เจ๊อะสิพี่ภัทร ลืมของเห็นว่าจะต้องใช้ด่วน บริ๊งต้องเอาไปให้ที่บริษัทเนี่ย” เจ้าบริ๊งว่าขณะตรวจเช็คสิ่งของในถุงว่าไม่ลืมอะไรแล้ว
“ให้พี่ไปส่งมั้ย”ณภัทรเอ่ยปากช่วยเหลือ”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ภัทร พี่ภัทรดูทีวีต่อเถอะ งั้นบริ๊งฝากห้องด้วยนะต้องรีบไป” บริ๊งคว้าโทรศัพท์มือถือ กุญแจห้องและกระเป๋าสตางค์กำลังจะออกจากห้อง “ง่ะ ตายล่ะเหลืออยู่ 7บาท” เจ้าบริ๊งหน้าซีด “อะไรเหรอบริ๊ง”ณถัทรถามอีกครั้งที่เห็นบริ๊งกลับเข้ามาในห้อง “พี่ภัทรๆๆๆๆๆๆๆ” เจ้าบริ๊งรีบวิ่งมาหาเธอ

“บริ๊งขอยืม 300 สิไม่มีตังค์ค่าแท๊กซี่อะ” เจ้าบริ๊งอธิบายเขินๆ “แล้วกัน...เอางี้พี่ไปส่งดีกว่า ดีกว่านั่งแท็กซี่เยอะ” ณภัทรขยิบตาให้สาวน้องข้างห้อง”ขอสองนาที”เธอว่าแล้วเดินกลับเข้าห้องไป

ทันทีที่ลงมายังชั้นจอดรถของอาคารเจ้าบริ๊งก็ได้ตะลึงพรึงเพริดอีกครั้ง
“เลม..โบ..กิ...นี่” บริ๊งอ้าปากค้างทันทีที่เห็นว่ารถที่เธอต้องโดยสารไปนั้นเป็นรถอะไร
“เอ้าบริ๊งไหนว่ารีบไง” ณภัทรยิ้มขำแล้วเปิดประตูรถด้านคนขับขึ้นไปนั่งประจำตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว
“ครั้งแรกในชีวิต”เจ้าบริ๊งทำหน้าซาบซึ้งราวกับน้ำตาจะไหลที่ได้นั่งรถในฝัน อีกไม่กี่วินาทีต่อมา รถสปอต์คันหรูก็พุ่งทะยานออกจากคอนโด เจ้าบริ๊งทำหน้าทีเป็นเนวิเกเตอร์ที่ดี คอยบอกทางณภัทรเป็นช่วงๆ เวลาเพียงไม่นาน รถคันหรูก็มาถึงบริษัทที่บรีซทำงานอยู่
“เสียเวลาตรวจบัตรอีก”เจ้าบริ๊งกังวล ถึงแม้จะทำเวลาได้ดี แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องเสียเวลาอีกนานแค่ไหน แต่สิ่งที่บริ๊งกังวลกลับไม่เกิดขึ้น เพียงแค่ รปภเห็นทะเบียนรถ เขาก็รีบ เปิดด่านที่กั้นออกอย่างรวดเร็ว ไม่มีการตรวจเช็คใดๆ ไม่ต้องยื่นบัตรอะไรทั้งสิ้ง บริ๊งหันไปมองหน้าของณภัทร งงๆ เธอเพียงแค่ยิ้มแล้วรีบเลี้ยวเข้าที่จอดรถทันที
“VIP” นั่นเป็นอีกสิ่งที่บริ๊งยังไม่รู้ ณภัทรจอดรถในโซนพิเศษที่ถ้าไม่ใหญ่จริงไม่น่าจะจอดได้
เสียงมือถือของบริ๊งดังขั้นอีกครั้ง เจ้าตัวรีบรับสายทันที “ถึงแล้วเจ๊ๆ อยู่ชั้นไหน”เจ้าบริ๊งรีบตอบคำถามพี่สาว

“เคๆ ไปเดียวนี้แหละ” บริ๊งรีบมองหาลิฟท์แล้วรีบวิ่งแจ้นทันที “พี่ภัทรทางนี้ค่ะ” เจ้าบริ๊งรีบจูงมือณภัทรที่เดินอ้อยอิ่งอยู่ให้รีบไปพร้อมกับเธอ “จ้าๆ” ณภัทรยิ้มแล้วรีบเดินตามบริ๊งไป

“บริ๊งทางนี้ๆ” อิงนภาที่มายืนรอรับของขากบริ๊งอยู่หน้าลิฟท์ตะโกนเรียกน้องสาวของเพื่อนด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“ทันมั้ยพี่อิง”เจ้าบริ๊งถามด้วยความกังวล
“ฉิวเฉียดเลยละ บริ๊งเอ๋ย” อิงนภาตอบ แล้วกำลังจะรีบวิ่งกลับเข้าไปด้านใน “คุณภัทร” เธอโพล่งตาโตด้วยความตกใจไม่คิดว่าคนที่มากับบริ๊งจะเป็นลูกสาวของประธาน บริษัท “ว่าไงคุณอิง” ณภัทรเจือนยิ้มแล้วเดินนำบริ๊งกับอิงนภาที่ยังยืนอึ้งอยู่เข้าไปด้านใน “มาด้วยกันได้ไง”อิงนภาเกี่ยวแขนเจ้าบริ๊งให้เดินไปถามไปด้วยในเวลาเดียวกัน “ใคร..พี่ภัทรอะเหรอ”บริ๊งทำหน้าเหรอหราไม่เข้าใจว่าอิงนภาจะถามทำไม “แกรู้มั้ยนั่นใคร”อิงถามต่อ

“รู้จิ ก็เจ้าของคอนโดที่เจ๊กะบริ๊งอยู่ไง” เจ้าบริ๊งตอบหน้าตาย “ฉันไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น ชั้นหมายถึงว่าแกไปรู้จักเขาได้ยังไง ปกติคุณภัทรน่ะ บรือ.... “อิงนภาเพียงแค่นึกถึงนิสัยของณภัทร สิ่งที่เธอเคยโดนมากับตัวเจ้าตัวก็ถึงกับเสียวหลังขึ้นมาวูบๆ “ทำไมเหรอพี่อิง” บริ๊งชักสนใจขึ้นมา “โอ้ยอย่าให้เล่าเลยสาธยาย3วัน3คืนก็ไม่จบ พี่เราน่ะโชคดีไม่เจอคุณภัทรเพราะตอนบรีซเข้ามาคุณภัทรแกไปต่อนอกแล้ว ไอ้พวกเข้ามาก่อนอย่างพี่สิ ซวยสุดจะเอ่ย” อิงฟ้ายิ่งพูดยิ่งเล่าก็ยิ่งได้อารมณ์เธอบรรยายวีกรรมของลูกสาวประธารบริษัท ให้บริ๊งฟังเป็นฉากๆ จนเจ้าตัวคนที่ฟังยังถึงกับอึ้ง เธอรอดมาได้ยังไงจากเหตุการณ์วันนั้น วันที่เธอเป็นหน่วยกล้าตายไปคุยกับณภัทรแทนพี่สาว

“นี่ยังไม่ถึงครึ่งที่พี่เจอนะ ไว้ว่างๆเดียวจะเมาท์ให้ฟังขอทำงานก่อน” อิงนภาว่าแล้วรีบหอบโปรดัส์ที่บริ๊งเอามาให้หายจ้อยไปด้านหลังฉาก “เจ๊ๆๆๆ” เจ้าบริ๊งที่ยืนอยู่ห่างๆ ควักมือเรียกพี่สาวที่กำลังน้อมตัวฟังผู้กำกับขาโหดอยู่ด้วยสีหน้าเคร่ง เครียด ไม่น่านักบรีซก็รีบสาวเท้าเดินมาหาน้องสาว

“เฮ้อ.....ขอบใจนะบริ๊ง” บรีซถอนหายใจแล้วรับแก้มน้ำดื่มจากทีมงานนั่งลงข้างๆน้องสาว “ไม่ช่วยพี่ตัวเองแล้วจะไปช่วยใครที่ไหนล่ะเจ๊”เจ้าบริ๊งยืดตัวพูดด้วยความ ภูมิใจกะจะให้บรีซซาบซึ้งกับสิ่งที่ตัวเองพูดไป “โอเค เจ๊ปลื้มมากเลยอะบริ๊ง งั้น 3000อะไรนั่นก็ไม่เกี่ยวสิเน๊อะเพราะเราเป็นพี่น้องกัน” บรีซโอบคอบริ๊งแล้วยิ้ม
“ฮ่วย....พี่น้องก็เรื่องหนึ่งเงินก็เรื่องหนึ่ง”เจ้าบริ๊งรีบสะบัดแขนของบรีซที่พาดอยู่ที่คอตัวเองออกทันทีที่บรีซพูดถึงเรื่องเงิน
“เอ่อ ไอ้งก” บรีซยิ้มขำ
“เอ้าก็พี่เป็นไง น้องก็เป็นงั้นแหละ” เจ้าตัวดีเถียง จึงโดนบรีซแจกมะกอกลงกลางกะหม่อมเสียหนึ่งป๊อก

“โห้เจ๊อะ บริ๊งก็ต้องกินต้องใช้นะเฮียให้เดือนละหมื่นเองจะไปพออะไรอ่ะ เนี่ยเกือบไม่ได้มาเพราะไม่มีตังค์แล้วรู้เปล่า” บริ๊งบ่นโอดโอยให้บรีซฟัง “เอ้าแล้วมาได้ไง” บรีซสงสัยถามกลับไป “ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเจ็ดบาท ดีนะพี่ภัทรอยู่ก็เลยให้มา...”เจ้าบริ๊งยังพูดไม่จบดีบรีซก็ทะลึ่งพรวดลุก จากเก้าอี้ทันที
“อะไรนะ” โห้เจ๊อะไรเนี่ยทำไมต้องตกใจขนาดนั้น ก็เนี่ยบริ๊งไม่มีตังค์ค่าแทคซี่พี่ภัทรอยู่พอดีเลยอาสามาส่งเนี่ย” เจ้าบริ๊งอธิบายให้พี่สาวที่ดูหน้าตื่นๆฟัง และก็จริงอย่างที่บริ๊งพูดเมื่อเธอมองตรงไปด้านในก็เห็นคนข้างห้องกำลง คุยอยู่กับผู้กับกำขาโหดที่ดูมีท่าทางต่างไปจากตอนที่คุยกับเธอ ผู้กำกับขาโหดดูน้อมนอม อ่อนโยน และยิ้มแย้ม ซึ่งนั่นก็ถึงกับทำให้หลายๆคนประหลาดใจ

โดยเฉพาะพวกทีมงานใหม่ๆหรือเด็กฝึกงานที่ยังไม่รู้ว่าณภัทรคือใคร ทันที่ที่เธอเห็นคนตรงหน้าบรีซก็รีบหลุบตาหนีแล้วเตรียมชิ่งออกแต่ก็ไม่ทัน เสียแล้ว ณภัทรหันมามองเธอพอดี จริงๆต้องบอกว่าณภัทรเห็นเธอตั้งแต่มาถึงที่สตูดิโอแห่งนี้แล้ว เธออมยิ้มแล้วเดินมาหาสองพี่น้องที่นั่งอยู่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น