“ฮัดชิ้วๆๆ” ทางด้านคนที่กำลังถูกพูดถึงก็ถึงกับทำจมูกฟุดฟิด อยู่ๆก็เกิดจามขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุเสียอย่างนั้น
“เป็นหวัดเหรอพี่บรีซ” เฟียส
หนุ่มน้อยหน้ามนที่เพิ่งจะมาฝึกงานที่บริษัทแห่งนี้ได้ไม่กี่อาทิตย์ถามขึ้น
เมื่อเห็นว่าบรีซ
เอาแต่จามจนจมูกของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้วด้วยความเป็นห่วง
“ไม่รู้สิเฟียส แพ้อากาศมั้ง หรือว่ามีใครแอบนินทาก็ไม่รู้” บรีซพูดติดตลก
“ให้ผมหายาให้มั้ย”
“น้องเฟียสจ๋า..ขานั้นน่ะไม่ต้องเป็นห่วง พี่สิคะน่าเป็นห่วง”
เสียงแซวของอิง เพื่อนร่วมบริษัทของบรีซเอ่ยขึ้น
พร้อมเสียงผิวปากของเพื่อนๆหนุ่มๆในบริษัทอีกหลายคน
ที่ต่างก็รู้ดีว่าหนุ่มน้อยคนนี้ดูจะห่วงใยบรีซเกินกว่ารุ่นพี่หรือเพื่อน
ร่วมงานคนอื่นๆ
และก็ดูเหมือนจะมีเพียงเจ้าตัวคนโดนสนใจเพียงคนเดียวละมั่งทีไม่รู้ว่ารุ่น
น้องกำลังคิดอะไรกับเธออยู่
“เป็นอะไรกัน”บรีซปรายตามองคนอื่นๆ เท่านั้นแหละเสียงที่เคยโห่ฮา ก็เงียบลงในฉับพลัน
“ยัยอิง มานี่หน่อย” บรีซรีบเดินไปหาเพื่อนซี้ที่กำลังจัดพล็อต อยู่ในฉากที่กำลังจะถ่ายทำในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
“อะไรๆ”อิงเดินตามเพื่อนที่กึ่งจูงกึ่งกระชากให้เดินตามบรีซไปอีกมุมหนึงของห้อง
“ฉันลืมเอาโปรดักส์มา” บรีซกระซิบบอกเพื่อนเบาๆ
“ห๋า......ไอ้บ้าบรีซจะถ่ายอยู่แล้วดันไม่มีโปรดักส์ แล้วจะทำไงเนี่ย”
อิงนภา หรืออิง ตกใจรีบมองนาฬิกาข้อมือ “ชั้นโทรบอกเมนเซนเจอร์แล้ว
อีกครึ่งชม น่าจะถึง..ถ้ารถไม่ติด” บรีซหน้าซีดกระซิบบอกเพื่อน
“เดียวโดนเฮียแก อาละวาดแน่” อิงหมายถึงเฮียติง
ผู้กำกับมือทองที่มักจะเป็นผู้ผลิตผลงานขั้นเทพให้กับบริษัทของเธอเกือบทุก
ตัว และแน่นอนว่าอารมณ์สุดยอดติสแตกของเฮียติงนั้นก็ไม่เป็นรองใครเช่นกัน
“ไอ้บริ๊งอยู่ห้องเปล่า”อิงนภาทำท่านึกแล้วถามถึงน้องสาวของเพื่อนรัก “อยู่
แล้วไงอะ”
บรีซมุ่นหน้างงๆไม่เข้าใจว่าถ้าบริ๊งอยู่แล้วจะช่วยอะไรได้อย่างนั้นเหรอ
“ไอ้ปิ๊กไปเรียกกรมผังเมืองมาสิ”
อิงนภาเหมือนจะนึกอะไรออกสั่งลูกน้องให้ไปเรียก
ทีมงานอีกคนที่เชี่ยวชาญเส้นทางและการขนส่งภายในกรุงเทพ
จนได้รับฉายาว่ากรมผังเมืองให้รีบมาหาพวกเธอ
อิงนภาจัดการสอบถามเส้นทางจากกรมผังเมือง บรีซได้แต่ยืนมองงงๆ ไม่กี่นาที
อิงก็ยื่นกระดาษที่เขียนด้วยลายมือหวัดๆส่งให้บรีซ
"โทรไปบอกให้ไอ้บริ๊งขนมาแล้วมาตามเส้นทางที่ฉันเขียนให้แก รับรอง
ไม่เกิน15นาทีถึง”
อิงนภาตบไหล่เพื่อนเบาๆราวกับว่าปัญหาทั้งหมดได้ถูกคลี่คลายลงแล้ว
“พูดเป็นเล่น” บรีซยังลังเลไม่แน่ใจว่าที่อิงพูดนั้นจะสามารถเป็นไปได้
“หรือจะรอเฮียติงมาด่าก็ตามใจแก”อิงนภายักไหล่แล้วไปจัดการกับงานที่ยัง
ค้างอยู่
“เป็นไงเป็นกัน” บรีซถอนหายใจแล้วคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาน้องสาวทันที
“บริ๊ง ...โทรศัทพ์”
ภัทรที่เอนตัวนอนดูทีวีอยู่ในห้องของสองศรีพี่น้องตะโกนเรียกบรีงที่กำลัง
ขะมักเขม้นทำความสะอาดห้องน้ำอยู่ “ค่าๆๆๆ”
เจ้าบริ๊งชะโงกหน้าตอบแล้วรีบวิ่งมารับโทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆโซฟาทันที
“ว่าไงเจ๊ มีอันหยัง” บริ๊งแปลกใจเมื่อเห็นว่าคนที่โทรมานั้นเป็นพี่สาวสุดโหดของตัวเอง
“ห๋า...ไม่มีทาง โนว์ โนว์ โนว์”
ณภัทรเงยหน้าขึ้นมามองเมื่อเห็นว่าบริ๊งเหมือนจะทะเลาะกับคนปลายสายมากกว่า
จะคุยกัน “เชอะเรื่องอะไร คราวที่แล้วตัวเองทำไรกับเค้าไว้ จำได้ม๊าย
คราวนี้อย่าหวัง ม่ายยยยยยมีทางงงง”
เจ้าบริ๊งตะโกนเสียงดังกรอกเข้าไปในโทรศัพท์
“อะไรนะ...ไม่ 3000 ไม่ต้อง 3000 ไม่งั้นไม่ไป” ณภัทรยิ้มขำ
บริ๊งเหมือนกำลังต่อรองราคาอะไรซักอย่างอยู่
เธอมองสาวน้อยท่าทางทะโมนเดินวนไปวนมาเถียงกับคนในโทรศัพท์อยู่ซักพัก
ก็หันไปสนใจกับภาพยนต์ในทีวีต่อ
“งืมๆ...โอเค...ตรงนั้นนะ โอเค โอเค...จดแล้วเจ๊ จดอยู่ไม่หลงหรอกน่า” บริ๊งตะโกนกรอกใส่หูโทรศัพท์อีกครั้ง
“อืมๆ รู้แล้ว จะหอบไปหมดเลย อืมหลังโต๊ะเห็นแล้วๆ”
เจ้าบริ๊งเดินไปที่หลังโต๊ะทำงานของบรีซก็เห็นกองโปรดักส์ที่บรีซลืมทิ้งไว้
“อือๆ ออกเดียวนี้แหละ...อย่าลืมนะ 3000”
เจ้าบริ๊งย้ำอีกครั้งแล้วกุลีกุจอรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
คว้าโปรดักส์ทั้งหมดลงถุงด้วยความรีบร้อน “เอ้า จะไปไหนเหรอบริ๊ง”
ณภัทรถามที่เห็นบริ๊งรีบวิ่งแจ้นออกมาจากห้องพร้อมชุดที่เปลี่ยนเรียบร้อย
แล้ว “เจ๊อะสิพี่ภัทร ลืมของเห็นว่าจะต้องใช้ด่วน
บริ๊งต้องเอาไปให้ที่บริษัทเนี่ย”
เจ้าบริ๊งว่าขณะตรวจเช็คสิ่งของในถุงว่าไม่ลืมอะไรแล้ว
“ให้พี่ไปส่งมั้ย”ณภัทรเอ่ยปากช่วยเหลือ”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ภัทร พี่ภัทรดูทีวีต่อเถอะ
งั้นบริ๊งฝากห้องด้วยนะต้องรีบไป” บริ๊งคว้าโทรศัพท์มือถือ
กุญแจห้องและกระเป๋าสตางค์กำลังจะออกจากห้อง “ง่ะ ตายล่ะเหลืออยู่ 7บาท”
เจ้าบริ๊งหน้าซีด
“อะไรเหรอบริ๊ง”ณถัทรถามอีกครั้งที่เห็นบริ๊งกลับเข้ามาในห้อง
“พี่ภัทรๆๆๆๆๆๆๆ” เจ้าบริ๊งรีบวิ่งมาหาเธอ
“บริ๊งขอยืม 300 สิไม่มีตังค์ค่าแท๊กซี่อะ” เจ้าบริ๊งอธิบายเขินๆ
“แล้วกัน...เอางี้พี่ไปส่งดีกว่า ดีกว่านั่งแท็กซี่เยอะ”
ณภัทรขยิบตาให้สาวน้องข้างห้อง”ขอสองนาที”เธอว่าแล้วเดินกลับเข้าห้องไป
ทันทีที่ลงมายังชั้นจอดรถของอาคารเจ้าบริ๊งก็ได้ตะลึงพรึงเพริดอีกครั้ง
“เลม..โบ..กิ...นี่” บริ๊งอ้าปากค้างทันทีที่เห็นว่ารถที่เธอต้องโดยสารไปนั้นเป็นรถอะไร
“เอ้าบริ๊งไหนว่ารีบไง” ณภัทรยิ้มขำแล้วเปิดประตูรถด้านคนขับขึ้นไปนั่งประจำตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว
“ครั้งแรกในชีวิต”เจ้าบริ๊งทำหน้าซาบซึ้งราวกับน้ำตาจะไหลที่ได้นั่งรถในฝัน
อีกไม่กี่วินาทีต่อมา รถสปอต์คันหรูก็พุ่งทะยานออกจากคอนโด
เจ้าบริ๊งทำหน้าทีเป็นเนวิเกเตอร์ที่ดี คอยบอกทางณภัทรเป็นช่วงๆ
เวลาเพียงไม่นาน รถคันหรูก็มาถึงบริษัทที่บรีซทำงานอยู่
“เสียเวลาตรวจบัตรอีก”เจ้าบริ๊งกังวล ถึงแม้จะทำเวลาได้ดี
แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องเสียเวลาอีกนานแค่ไหน
แต่สิ่งที่บริ๊งกังวลกลับไม่เกิดขึ้น เพียงแค่ รปภเห็นทะเบียนรถ เขาก็รีบ
เปิดด่านที่กั้นออกอย่างรวดเร็ว ไม่มีการตรวจเช็คใดๆ
ไม่ต้องยื่นบัตรอะไรทั้งสิ้ง บริ๊งหันไปมองหน้าของณภัทร งงๆ
เธอเพียงแค่ยิ้มแล้วรีบเลี้ยวเข้าที่จอดรถทันที
“VIP” นั่นเป็นอีกสิ่งที่บริ๊งยังไม่รู้ ณภัทรจอดรถในโซนพิเศษที่ถ้าไม่ใหญ่จริงไม่น่าจะจอดได้
เสียงมือถือของบริ๊งดังขั้นอีกครั้ง เจ้าตัวรีบรับสายทันที “ถึงแล้วเจ๊ๆ อยู่ชั้นไหน”เจ้าบริ๊งรีบตอบคำถามพี่สาว
“เคๆ ไปเดียวนี้แหละ” บริ๊งรีบมองหาลิฟท์แล้วรีบวิ่งแจ้นทันที
“พี่ภัทรทางนี้ค่ะ”
เจ้าบริ๊งรีบจูงมือณภัทรที่เดินอ้อยอิ่งอยู่ให้รีบไปพร้อมกับเธอ “จ้าๆ”
ณภัทรยิ้มแล้วรีบเดินตามบริ๊งไป
“บริ๊งทางนี้ๆ” อิงนภาที่มายืนรอรับของขากบริ๊งอยู่หน้าลิฟท์ตะโกนเรียกน้องสาวของเพื่อนด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“ทันมั้ยพี่อิง”เจ้าบริ๊งถามด้วยความกังวล
“ฉิวเฉียดเลยละ บริ๊งเอ๋ย” อิงนภาตอบ แล้วกำลังจะรีบวิ่งกลับเข้าไปด้านใน
“คุณภัทร”
เธอโพล่งตาโตด้วยความตกใจไม่คิดว่าคนที่มากับบริ๊งจะเป็นลูกสาวของประธาน
บริษัท “ว่าไงคุณอิง”
ณภัทรเจือนยิ้มแล้วเดินนำบริ๊งกับอิงนภาที่ยังยืนอึ้งอยู่เข้าไปด้านใน
“มาด้วยกันได้ไง”อิงนภาเกี่ยวแขนเจ้าบริ๊งให้เดินไปถามไปด้วยในเวลาเดียวกัน
“ใคร..พี่ภัทรอะเหรอ”บริ๊งทำหน้าเหรอหราไม่เข้าใจว่าอิงนภาจะถามทำไม
“แกรู้มั้ยนั่นใคร”อิงถามต่อ
“รู้จิ ก็เจ้าของคอนโดที่เจ๊กะบริ๊งอยู่ไง” เจ้าบริ๊งตอบหน้าตาย
“ฉันไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น ชั้นหมายถึงว่าแกไปรู้จักเขาได้ยังไง
ปกติคุณภัทรน่ะ บรือ.... “อิงนภาเพียงแค่นึกถึงนิสัยของณภัทร
สิ่งที่เธอเคยโดนมากับตัวเจ้าตัวก็ถึงกับเสียวหลังขึ้นมาวูบๆ
“ทำไมเหรอพี่อิง” บริ๊งชักสนใจขึ้นมา
“โอ้ยอย่าให้เล่าเลยสาธยาย3วัน3คืนก็ไม่จบ
พี่เราน่ะโชคดีไม่เจอคุณภัทรเพราะตอนบรีซเข้ามาคุณภัทรแกไปต่อนอกแล้ว
ไอ้พวกเข้ามาก่อนอย่างพี่สิ ซวยสุดจะเอ่ย”
อิงฟ้ายิ่งพูดยิ่งเล่าก็ยิ่งได้อารมณ์เธอบรรยายวีกรรมของลูกสาวประธารบริษัท
ให้บริ๊งฟังเป็นฉากๆ จนเจ้าตัวคนที่ฟังยังถึงกับอึ้ง
เธอรอดมาได้ยังไงจากเหตุการณ์วันนั้น
วันที่เธอเป็นหน่วยกล้าตายไปคุยกับณภัทรแทนพี่สาว
“นี่ยังไม่ถึงครึ่งที่พี่เจอนะ ไว้ว่างๆเดียวจะเมาท์ให้ฟังขอทำงานก่อน”
อิงนภาว่าแล้วรีบหอบโปรดัส์ที่บริ๊งเอามาให้หายจ้อยไปด้านหลังฉาก “เจ๊ๆๆๆ”
เจ้าบริ๊งที่ยืนอยู่ห่างๆ
ควักมือเรียกพี่สาวที่กำลังน้อมตัวฟังผู้กำกับขาโหดอยู่ด้วยสีหน้าเคร่ง
เครียด ไม่น่านักบรีซก็รีบสาวเท้าเดินมาหาน้องสาว
“เฮ้อ.....ขอบใจนะบริ๊ง”
บรีซถอนหายใจแล้วรับแก้มน้ำดื่มจากทีมงานนั่งลงข้างๆน้องสาว
“ไม่ช่วยพี่ตัวเองแล้วจะไปช่วยใครที่ไหนล่ะเจ๊”เจ้าบริ๊งยืดตัวพูดด้วยความ
ภูมิใจกะจะให้บรีซซาบซึ้งกับสิ่งที่ตัวเองพูดไป “โอเค
เจ๊ปลื้มมากเลยอะบริ๊ง งั้น
3000อะไรนั่นก็ไม่เกี่ยวสิเน๊อะเพราะเราเป็นพี่น้องกัน”
บรีซโอบคอบริ๊งแล้วยิ้ม
“ฮ่วย....พี่น้องก็เรื่องหนึ่งเงินก็เรื่องหนึ่ง”เจ้าบริ๊งรีบสะบัดแขนของบรีซที่พาดอยู่ที่คอตัวเองออกทันทีที่บรีซพูดถึงเรื่องเงิน
“เอ่อ ไอ้งก” บรีซยิ้มขำ
“เอ้าก็พี่เป็นไง น้องก็เป็นงั้นแหละ” เจ้าตัวดีเถียง จึงโดนบรีซแจกมะกอกลงกลางกะหม่อมเสียหนึ่งป๊อก
“โห้เจ๊อะ บริ๊งก็ต้องกินต้องใช้นะเฮียให้เดือนละหมื่นเองจะไปพออะไรอ่ะ
เนี่ยเกือบไม่ได้มาเพราะไม่มีตังค์แล้วรู้เปล่า” บริ๊งบ่นโอดโอยให้บรีซฟัง
“เอ้าแล้วมาได้ไง” บรีซสงสัยถามกลับไป “ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเจ็ดบาท
ดีนะพี่ภัทรอยู่ก็เลยให้มา...”เจ้าบริ๊งยังพูดไม่จบดีบรีซก็ทะลึ่งพรวดลุก
จากเก้าอี้ทันที
“อะไรนะ” โห้เจ๊อะไรเนี่ยทำไมต้องตกใจขนาดนั้น
ก็เนี่ยบริ๊งไม่มีตังค์ค่าแทคซี่พี่ภัทรอยู่พอดีเลยอาสามาส่งเนี่ย”
เจ้าบริ๊งอธิบายให้พี่สาวที่ดูหน้าตื่นๆฟัง
และก็จริงอย่างที่บริ๊งพูดเมื่อเธอมองตรงไปด้านในก็เห็นคนข้างห้องกำลง
คุยอยู่กับผู้กับกำขาโหดที่ดูมีท่าทางต่างไปจากตอนที่คุยกับเธอ
ผู้กำกับขาโหดดูน้อมนอม อ่อนโยน และยิ้มแย้ม
ซึ่งนั่นก็ถึงกับทำให้หลายๆคนประหลาดใจ
โดยเฉพาะพวกทีมงานใหม่ๆหรือเด็กฝึกงานที่ยังไม่รู้ว่าณภัทรคือใคร
ทันที่ที่เธอเห็นคนตรงหน้าบรีซก็รีบหลุบตาหนีแล้วเตรียมชิ่งออกแต่ก็ไม่ทัน
เสียแล้ว ณภัทรหันมามองเธอพอดี
จริงๆต้องบอกว่าณภัทรเห็นเธอตั้งแต่มาถึงที่สตูดิโอแห่งนี้แล้ว
เธออมยิ้มแล้วเดินมาหาสองพี่น้องที่นั่งอยู่
Innocen't devil
เล่ม 1และ 2 ยังมีอยู่นะคะ
ราคาหนังสือ
Innocent's devil เล่ม1 185บาท
Innocent's devil เล่ม2 235บาท
1. สำหรับผู้สั่งซื้อ เล่ม 1 และเล่ม2 = 235(เล่ม2)+185(เล่ม1)+17ซองกันกระแทกC4+70(ลงทะเบียน)
รวมต้องชำระ 507 บาท
2.สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ เล่ม 2 = 235+17(ซองกันกระแทก)+50(ลงทะเบียน)
รวมต้องชำระ 302 บาท
3.สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ เล่ม 1 = 185+17+50
รวมต้องชำระ 252 บาท
Innocent's devil เล่ม1 185บาท
Innocent's devil เล่ม2 235บาท
1. สำหรับผู้สั่งซื้อ เล่ม 1 และเล่ม2 = 235(เล่ม2)+185(เล่ม1)+17ซองกันกระแทกC4+70(ลงทะเบียน)
รวมต้องชำระ 507 บาท
2.สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ เล่ม 2 = 235+17(ซองกันกระแทก)+50(ลงทะเบียน)
รวมต้องชำระ 302 บาท
3.สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ เล่ม 1 = 185+17+50
รวมต้องชำระ 252 บาท
วิธีการแจ้งโอนเงิน
เลขที่บัญชี 736-2-28423-0
>>>เช็คชื่อบัญชีดีๆนะคะระวังผิด(Morakot W.)<<<
ธนาคาร กสิกรไทย สาขาย่อยถนนรามคำแหง
--------------------------------
หมายเหตุ : หลังแจ้งการโอนเงินแล้ว
กรุณาอีเมล์บอก(subject : ค่าหนังสือ IND)
เมล์ aphrodite_eve@hotmail.com
1.ชื่อ -นามสกุลที่จะให้จัดส่ง
2หนังสือเล่มที่ต้องการซื้อ ยอดการโอน(ลงท้ายเป็นเศษสตางค์)
3.หลักฐานการโอนเงิน เวลาที่โอน สาขา หรืออะไรก็ได้ที่ระบุว่าท่านเป็นผู้โอนเงิน ทางผู้แต่งจะได้สามารถเช็คได้นะคะ
ปล. มีปัญหาอะไรสามารถ เมล์มาสอบถามได้นะคะ หรือจะทิ้งไว้ในfacebook ก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น