“เจ๊จ๋า” เสียงใสดังลั่นปลุกคนที่กำลังหดหู่ให้รู้สึกตัว
บรีซยังคงนั่งจุมปุ๊กอยู่ที่เดิม
ดูท่าว่าสติสตังคงจะหลุดลอยออกจากร่างจริงๆแล้วล่ะมั๊ง
“เอ้าแล้วอยู่ทำไรมืดๆ” บริ๊งทักพี่สาวแล้วตบมือดังแปะไฟทั้งห้องก็สว่าง
“ดีจริ๊งจริงไม่ต้องคล่ำหาสวิตช์”
เจ้าตัวแสบยิ้มร่าไม่เห็นเลยมั่งนั่นว่าพี่สาวตัวเองท่าทางเหมือนคนหมดอาลัย
ตายอยากในชีวิต
“เจ๊!!!”เจ้าตัวแสบตะโกนเสียงดังใส่พี่สาวอีกรอบเพราะเห็นว่าเจ้าตัวคนถูกเรียกยังนั่งนิ่งอยู่ที่พื้น
“เจ้าของตึก....น้องบอส....”บรีซยังพึมพำประโยคเดิมๆซ้ำไปซ้ำมา
จะมารู้สึกตัว สะดุ้งโหย่งก็ตอนที่ บริ๊งแกล้งมาตบมือเสียงดังข้างๆหูเธอ
“เฮ้ยๆๆ.อะไร อะไร..ไอ้บริ๊ง” คนสวยสะดุ้งพรวดลุกขึ้น แล้วมองหน้าน้องสาวที่เหมือนจะยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“บริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงช่วยเจ๊ด้วย ตายแน่ ตายแน่ๆ” เธอรีบโผเข้ากอดตัวน้องสาวแน่น
“เหวอๆๆๆ...อะไรเจ๊ ...เกิดไรขึ้นเป็นไร ใครทำไรเจ๊” เจ้าตัวแสบตกใจเล็กน้อยที่เห็นพี่สาวโผเข้าใส่
บรีซจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับสาวข้างห้องให้บริ๊งฟัง แต่แทนที่เจ้าตัวดีจะเห็นใจพี่สาว กลับเอาแต่หัวเราะ
“อ้ายบริ๊งๆๆๆๆ” คนเป็นพี่เห็นท่าทางของน้องสาวที่ดูจะช่วยอะไรไม่ได้แถมยังซ้ำเติมอีก เธอแทบจะกระโดดขย้ำน้องตัวเอง
“ขอโต๊ดๆๆๆ” เจ้าตัวแสบพยายามกลั้นหัวเราะ
“เอางี้ๆ...เจ๊ ใจเย็นๆก่อน เรื่องแค่นี้เองน่า...” บริ๊งพยายามปลอบพี่สาวไปพร้อมๆกับที่พยายามจะกลั้นหัวเราะ
“ยังไงเล่า แกเห็นมั้ย เจ้าของตึก แถมยังเป็นน้องสาวบอสอีก ถ้า เขาเอาเรื่องขึ้นมา ฟ้องบอส ฉันได้ตกงานแน่ๆ”บรีซอธิบายอย่างร้อนรน
“กินไรยังเจ๊” อยู่ๆเจ้าบริ๊งก็เปลี่ยนเรื่องขึ้นมา
“ยัง....ไอ้บริ๊งฟังที่พูดอยู่มั้ยเนี่ย” เธอหันมองค้อนน้องสาวอีกตลบ
“เฮ้อ....เจ๊...ไม่มีไรหรอกมั้ง เอางี้ ถ้าเจ๊ไม่สบายใจ เดียว บริ๊งไปคุยให้เอง”
“ยังไง” เธอมุ่นหน้าสงสัย
“เอาน่า...เจ๊รอนี่นะ” เจ้าบริ๊งอาจหาญ ท่าทางราวกับซุปเปอร์ฮีโร่กำลังจะไปกู้โลก
“แกจะบ้าหรือไงไอ้บริ๊ง คนแบบนั้นฉันว่าพูดอะไรไปก็คงไม่ฟังหรอก ก็ดูที่ฉันเจอสิ” บรีซพูดไปเดินวนไปวนมา
“แต่บริ๊งว่าเจ๊เองก็ทำไม่ถูกนะ มาถึงก็ไปแรงใส่เค้าเลยอ่าๆๆๆ” บริ๊งว่า
“ไอ้บริ๊ง...นี่แกเข้าข้างคนอื่นเหรอ” ไม่มีทางเสียล่ะ เธอเดินอาดๆเป้าหมายอยู่ที่กระหม่อมของน้องสาว
“ดะ...เดี๋ยวสิเจ๊...ก็ บริ๊งพูดจริงๆนี่” บริ๊งเองก็ไวเป็นลิง
เธอกะไว้อยู่แล้วว่าถ้าพูดออกไปได้โดนแน่
เธอจึงรีบเผ่นหนีไปที่อีกมุมหนึ่งของห้อง
“ไม่รู้ด้วยแล้ว ถ้าชั้นตกงาน แกก็ซวยไปด้วยแหละ” คนพาลพูดจบก็ตีหน้ายุ่งแล้วกระแทกตัวนั่งลงที่โซฟากลางห้อง
“เอ้า...เป็นงั้นไป...เดียวเจ๊คอยดูแล้วกัน “ บริ๊งพูดจบก็สูดลมหายใจเฮือกใจแล้วเดินมาดมั่นออกไปจากห้อง
“ก๊อกๆ” บริ๊งกลืนน้ำลายอึกใหญ่ แล้วรอ...
”คะ?”ไม่กี่ฮึดใจก็มีคนมาเปิดประตู บริ๊งฉีกยิ้ม(?)
“หือ...ว่าไงคะ” ณภัทรอมยิ้ม ขำกับท่าทางของบริ๊ง
“คะ..คือว่า........หะ...หอมจังค่ะ”เจ้าบริ๊งลืมเรื่องที่อยู่ในหัวหมดสิ้น
เจ้าตัวกับให้ความสำคัญกับกลิ่นหอมๆของอะไรซักอย่างที่ลอยหอมฉุยออกมาจากภาย
ในห้อง “สตูว์ ไม่สิ แกงกระหรี่...ไม่สิ...สุกี้”
บริ๊งหลับตาพริ้มกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ลืมตัวโดยแท้เหลา
“อะ...ฮะ...ฮ่ะ...ฮ่า...”เจ้าของห้องหัวเราะตัวงอ เมื่อเจอกับพฤติกรรมของคนข้างห้อง
“แฮะๆ...ขะ..ขอโทษค่ะ..คือว่า” กว่าจะรู้ตัว บริ๊งก็อายม้วนหน้าแดงไปถึงหูที่เผลอทำตัวเปิ่นออกไป
“ว่าไงจ๊ะ...มีเรื่องอะไรเหรอ” ณภัทรยิ้มอารมณ์ดี
“คือว่า.......”
“เดียวนะ...เข้ามาก่อนมา พี่ต้มสตูว์ไว้ ขอไปดูก่อน” ณภัทรหันไปมองทางเคาเตอร์ครัวแล้วรีบไปดูที่หม้อต้มบนเตา
“บริ๊งว่าแล้วเชียวว่าต้องเป็นสตูว์” คนข้างห้องเอ่ยขึ้นแล้วเดินตามหลังณภัทรเข้าไปภายในห้อง
“โว้ว.........สวยจัง” บริ๊งตกตะลึงกับสิ่งที่ตัวเองได้เห็น
ผนังด้านหนึ่งถูกวาดเป็นรูปหญิงสาวกึ่งนู้ด แม้จะยังไม่เสร็จ
แต่ก็ถือว่าสวยมากๆ เจ้าตัวคนที่ไม่เคยเห็นมองโน้นมองนี่ด้วยความสนใจ
กองภาพเขียนสีน้ำมันที่กองอยู่เกลื่อนพื้น
และอีกหลายภาพที่ยังไม่เสร็จที่ถูกตรึงอยู่บนผืนผ้าใบ
“ดูเป็นเหรอ” ณภัทรชักเริ่มถูกชะตากับเด็กข้างห้องคนนี้แล้วสิ
“ไม่เป็นหรอกคะ พี่วาดเองหมดเลยเหรอ”บริ๊งช่วยภัทรถือหม้อสตูว์แล้ววางลงที่โต๊ะข้างๆ
“อืม..ก็วาดเล่นน่ะ”
ภัทรอมยิ้มแล้วตักสตูว์ใส่ชามให้บริ๊งที่ไม่ยอมละสายตาตั้งแต่เดินตามเธอ
เข้ามา “โห้...วาดเล่นเหรอคะ สวยแบบนี้เอาไปขายน่าจะได้หลายตังค์”
บริ๊งออกความเห็น
“ขนาดนั้นเลยเหรอ” ภัทรหัวเราะ ยื่นชามสตูว์ให้บริ๊งที่รออยู่แล้ว
“ขอบคุณค่ะ กำลังหิวสุดๆเลย” บริ๊งยิ้มร่า ณภัทรเท้าคางนั่งมองสาวข้างห้องที่กำลังจ้วงตักสตูว์ที่เธอทำ เข้าปาก
“โห้........วาดรูปก็เก่ง ทำอาหารยังอร่อย สุดๆเลยพี่”
เจ้าบริ๊งตาโตออกปากชมเจ้าของห้องไม่หยุด “งั้นก็ทานเยอะๆ”ภัทรอมยิ้ม
แล้วปล่อยให้บริ๊งทานต่อไป
“ขอบคุณฮ๊าฟๆๆๆ”เจ้าตัวแสบยิ้มกว้าง ยกมือไหว้ภัทรท่วมหัว เธอหัวเราะ เด็กคนนี้สามารถทำให้เธอยิ้มหัวเราะได้อยู่เรื่อยๆสิน่า
“อิ่มแล้วสิ” ภัทรว่าแล้วยกจานชามที่โดนบริ๊งกวาดเกลี้ยงไปที่ซิงค์ “อ่ะๆ
แล้วบริ๊งจัดการเอง”เจ้าตัวดีรีบกระวีกระวาดเข้าไปช่วยภัทร
เธอจึงไม่ขัดศรัทธาปล่อยให้เด็กผู้หญิงท่าทางๆเงอะๆงะทำตามที่ต้องการ
เธอยืนมองบริ๊งล้างจานอยู่ข้างๆ
“ว่าแต่..เรายังไม่ได้บอกพี่เลยนะว่ามีเรื่องอะไร”
ภัทรเอียงตัวพิงตู้เย็นที่อยู่ข้างๆมองหน้าตื่นๆของบริ๊งที่เหมือนกับว่าเธอ
จะจุดประเด็นเรื่องที่เจ้าตัวเกือบจะลืมไปแล้วขึ้นมาอีก
“ตายละ ลืมไปเลย...”บริ๊งหันไปมองเจ้าของห้องด้วยสีหน้าตื่นๆ
“คืองี้ค่ะ...เมื่อตอนบ่าย...พี่เจอกับ...”ทันทีที่บริ๊งเอ่ยปาก เจ้าของห้องก็นึกถึงหน้าของสาวห้องข้างๆขึ้นมาทันที
“แฟนเราน่ะเหรอ”ภัทรเอ่ย แล้วปัดมือ ราวกับจะบอกว่าอย่าไปสนใจอะไรมันเลย
“แฟน?” บริ๊งมุ่นหน้างงๆ ไม่เข้าใจว่าภัทรหมายถึงอะไร
“อืม..ก็เธอจะมาคุยกับพี่เรื่องยัยขี้วีนที่มาหาเรื่องพี่เมื่อบ่ายไม่ใช่
เหรอ...ไม่เป็นไรหรอก” ภัทรว่าแล้วนั่งลงที่มินิบาร์ใกล้ๆ
“มะ...ไม่ใช่แล้วพี่ ไม่ใช่แฟนบริ๊ง” บริ๊งรีบปฎิเสธเป็นพัลวัน
“เอ้า...ก็เมื่อเช้าพี่เห็นเรา...(จุ๊บ)กอดกันตัวกลม” ภัทรเปรย
“โอ้ย....ไม่ใช่เลยพี่...นั่นเจ๊ บรีซ พี่สาวแต๊ๆของบริ๊งเลย ฟงแฟนที่ไหน” บริ๊งรีบอธิบาย
“เหรอ...” ภัทรว่าแล้วปรายตามองภาพเขียนภาพหนึ่งของเธอที่ยังวาดไม่เสร็จ
“งั้นก็ ไปบอกพี่เราเถอะ ว่าพี่ไม่ว่าอะไรหรอก ไม่ต้องกลัว” ภัทรอมยิ้ม
ลุกเดินมาตบไหล่บริ๊งเบาๆ “ขอบคุณมากเลยค่ะ เนี่ย เจ๊บรีซแกวิตกจริต
โวยวายใหญ่เลยเนี่ย”เธออธิบายพร้อมแสดงท่าทางประกอบว่า
พี่สาวทำท่าทางอย่างไรบ้าง ภัทรเอาแต่หัวเราะ
เธอเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความตลกของบริ๊ง
“ว่าแต่...บริ๊งยังไม่รู้ชื่อพี่เลย คุยมาก็ตั้งนานแถมกินฟรีอีก” บริ๊งว่าอายๆ
“พี่ชื่อณภัทร เรียกพี่ภัทรก็ได้” เจ้าของห้องอธิบาย
“ค่ะ พี่ภัทร แล้วไว้...บริ๊งจะขอมาฝากท้องที่นี่อีกได้มั้ยค่ะ
เบื่ออาหารถุงเจ๊แล้วอะ” บริ๊งมุ่ยหน้าเมื่อนึกถึงแกงถุงที่
บรีซมักจะซื้อมาทิ้งไว้ เพราะเจ้าตัวไม่มีฝีมือทางด้านทำอาหารเอาเสียเลย
“กินแต่แกงถุงเลยไม่โตสินะเรา ตัวนิดเดียว”ภัทรแอบแซว
“ก็ใช่น่ะสิค๊า...เจ๊บรีซนะ ทอดไข่ไม่ให้ไหม้ยังทำไม่ได้เลย
บริ๊งเลยโตมากับแกงถุงกับข้าวถุงเนี่ยแหละ”
บริ๊งเริ่มบ่นแถมยังนินทาพี่สาวตัวเองให้คนห้องข้างๆฟัง
“น่าสงสารเน๊อะ...งั้นก็ถ้าหิวเมื่อไรก็แวะมาแล้วกัน” ณภัทรออกปากชวน
“ขอบคุณมากเลยฮ๊าฟฟฟ”เจ้าบริ๊งฉีกยิ้มกว้าหน้าตาดูปลาบปลื้มๆสุดๆ
“งั้นบริ๊งกลับห้องก่อนนะพี่ภัทร ป่านนี้เจ๊ไม่รู้เป็นไงมั่งแล้ว” เธอมองนาฬิกา เธอทิ้งบรีซไว้ที่ห้องคนเดียว ร่วมครึ่งชั่วโมงแล้ว
“ดะ..เดียวบริ๊ง..”ภัทรทักแล้วหายกลับเข้าไปในครัว
“พี่เธอก็คงยังไม่ได้ทานอะไรเหมือนกันใช่มั้ย อ่ะนี่”พูดจบ
ภัทรก็ยื่นชามสตูว์กลิ่นหอมฉุยให้บริ๊ง
“ขอบคุณค่ะพี่ภัทร”บริ๊งยิ้มกว้างแล้วกล่าวลาณภัทรอีกครั้งก่อนจะกลับห้องของตัวเองไป
“เจ๊ๆๆๆๆๆ”เจ้าบริ๊งยิ้มระรื่นกลับห้องในมือมีชามสตูว์ หอมกรุ่นกลับมาด้าย
“บริ๊งๆๆๆๆ”บรีซเห็นหน้าน้องสาวแทบจะกระโจนเข้าใส่
“ว่าไงๆ ได้เรื่องมั้ย”เธอรีบถามน้องสาวด้วยท่าทางร้อนรน
“โห้ย.. ใครเจ๊ นี่ใคร”เจ้าตัวแสบได้ที ยิ้มระรื่นโชว์พาวเต็มที่
“ลีลาอยู่นั่นแหละได้เรื่องมั้ย” บรีซรีบซัก ใจเต้นโครมคราม “อะฮึ่ม!” เจ้าบริ๊งยังลีลา เดินอมยิ้มไปที่โต๊ะทานข้าวกลางห้อง
“ไอ้บริ้ง” บรีซชักเหลืออดตวาดเสียงดัง”เบาๆก็ได้เจ๊แหมเรื่องแค่นี้เอง
อุอุ”ไม่มีทางเสียล่ะ ได้ที
เจ้าบริ๊งเลยเอาใหญ่แกล้งเดินวนไปวนมาวางมาดไม่เลิก “ถ้า...ทำสำเร็จ
บริ๊งจะได้อะไร” รอยยิ้มชั่วร้ายเล็กๆเกิดขึ้นบนหน้าน้องสาวตัวแสบ
บรีซที่ลุ้นจนตัวโก่ง
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเธอกำลังรอลุ้นคำตอบอยู่นั่นเอง
“เอ่อ...จะเอาอะไรก็ว่ามา” บรีซเดินตามน้องสาวที่เดินเอื่อยเฉื่อย
ลีลาเสียจนน่าจะแจกมะกอกลงบนกระหม่อมของน้องสาว
“อุอุ....เจ๊ต้องให้ทุนการศึกษาน้องสาวผู้แสนน่ารักคนนี้....เดือนละ
....เท่าไรดีน้า....เท่าไรดี....”เจ้าบริ๊งได้ทีขี่แพะไล่
“....ชั้นให้เวลาแกอีก 3วิ ถ้ายังไม่ยอมพูด...แกตาย”
บรีซไม่ได้ล้อเล่นท่าทางของเธอเอาจริงเสียจนบริ๊งนึกขนลุก “แง๊ะ....ใจร้าย
นี่น้องนะ...”บริ๊งมุ้ยหน้า(ยังไม่เลิกลีลา)
“เอ่อก็มีน้องแบบนี้ไ งฉันถึงเป็นแบบนี้” บรีซถอนหายใจเหนื่อยหน่าย
“เชอะ...บริ๊งอะอย่าง ไปเคลียให้เรียบร้อยแล้ว พี่ภัทรบอกว่าไม่มีอะไร
ไม่เป็นอะไร ไม่ต้องคิดมาก”
เจ้าตัวดีสาธยายเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบให้บรีซฟัง
ตัวคนที่นึกว่าจะตกงานซะแล้วถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่ยังอยู่รอด
ได้ทำงานที่บริษัทสื่อโฆษณายักษ์ใหญ่แห่งนี้ได้ต่อไป
“ก็แค่นั้นแหละ เฮ้อ.....รอดตายแล้วช้านนนน” บรีซยิ้มออกในที่สุด เธอทรุดตัวนั่งลงที่โซฟาสีตุ่นริมกระจกถอนหายใจเฮือกแล้วเฮือกเล่า
“เจ๊...จ๋า...เจ๊...”เจ้าบริ๊งคลานเข่า
ฉีกยิ้มกว้างมานั่งออเซาะข้างพี่สาว “อะไร” บรีซถาม
ที่เห็นบริ๊งมาอ้อนนัวเนียทำตัวเหมือนลูกแมวอ้อนเจ้าของ
เจ้าบริ๊งวางมือแปะลงบนตักของพี่แล้วสะกิดเบาๆแล้วแบมือ
พร้องส่งสายตาอ้อนๆให้พี่สาว
“รางวัลเค้าอ่ะ”
“ตอนแรกก็ว่าจะให้อยู่แล้วล่ะ มัวแต่ลีลาอยู่นั่นแหละ...อด” บรีซแยกเขี้ยวแล้วตีแปะลงบนมือของน้องที่แบ รอเก้อ
“ใจร้าย........”เจ้าบริ๊งว่าแล้วลงไปนอนชักดิ้นชักงอกับพื้น “จำไว้เลยนะ
ทีหลังมีเรื่องอะไรอีก
ไม่ต้องมาเรียกเลยนะ”เจ้าบริ๊งขู่เอาเรื่องแล้วเดินกระแทกเท้าปึงปังกลับ
เข้าห้องของตัวไป
“ให้ตายสิ”ผู้เป็นพี่ถอนหายใจเนื่อยๆ รู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อทุกอย่างดูจะคลี่คลายลง
เจ้าตัวถึงนึกขึ้นได้ว่าตั้งแต่ช็อกไปนั้นตัวเองยังไม่ได้ทานอะไรเลย
พอเหมาะกับท้องเจ้ากรรมที่อุธรณ์ขออาหาร ร้องโครกครากขึ้นมาในฉับพลัน
เธอถึงเพิ่งจะรำลึกได้ว่าได้กลิ่นหอมๆมาจากสิ่งที่เจ้าบริ๊งถือเข้ามา
บรีซรีบสาวเท้าโดยไว ไม่กี่ก้าวก็ถึงโต๊ะทานอาหารกลางห้อง
กลิ่นที่ลอยออกมายิ่งยั่วให้น้ำลายในกระพุ้งแก้มได้ออกมาอีกหลายระลอก
เธอรีบคว้าช้อนที่อยู่ข้างๆแล้วลงมือทานโดยไม่ได้ถามคนที่ถือเข้ามาที่งอน
เธอเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว
“อร่อยแฮะ เจ้าตัวแสบไปซื้อที่ไหนมาเนี่ย”
บรีซยักคิ้วสงสัยแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเธอรีบจ้วงตักสิ่งที่อยู่ในชามนั้น
ไม่กี่อึดใจชามใบสวยก็ว่างเปล่า
“อร่อยจังแฮะ เดียวต้องไปซื้อมาตุน”เธอนึกในใจ...
เช้าวันใหม่สดใสกว่าเก่า? เจ้าบริ๊งที่เพิ่งจะได้สติ
งัวเงียลุกขึ้นจากเตียง อีกไม่กี่นาทีจะ10โมงแล้ว
บริ๊งหลับตาเดินเข้าห้องน้ำอย่างรู้ทาง
นี่ก็เกือบสองอาทิตย์แล้วตั้งแต่วันที่บรีซมีเรื่องกับเจ้าของคอนโดที่เธอ
และพี่สาวพำนักอยู่(เป็นการชั่วคราว)
บริ๊งอ่านข้อความในโพสอิทที่พี่สาวแปะทิ้งไว้ที่ตู้เย็นแล้วเธอก็ต้องเบ้
หน้า
เพราะนั่นหมายถึงว่าเธอต้องหาอะไรใส่ท้องด้วยตัวเองจากที่อย่างน้อยๆก็น่าจะ
มีน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋หรือแกงถุงก็ยังดีแต่ตอนนี้ที่มีก็คือความว่างเปล่า
”แล้วจะมีตู้เย็นให้เปลืองไฟทำไมเนี่ย เดียวปั๊ดถอดปลั๊กเลย”
บริ๊งเบ้หน้าขณะที่มองเข้าไปในตู้เย็นเจ้าตัวลูบท้องของตัวเองเบาๆ
“ทนหน่อยนะลูกนะ...มะมี๋ก็หิว”เธอบอกท้องตัวเองแล้วตัดสินใจไปนั่งจ๋องอยู่
หน้าทีวีจอมหึมากลางห้องแทน
กะว่าจะดูอะไรเพลินๆเพราะไหนๆวันนี้ก็ไม่มีเรียน
แต่เธอก็ต้องเจอกับเจ้าโพสอิทสีเหลืองอ๋อยแปะอยู่ที่ทีวีแทน
“เวรแกขัดห้องน้ำ” บริ๊งเบ้หน้า นึกอยากจะร้องไห้
เธอเอื่อยเฉื่อยๆค่อยๆลุกขึ้น ใช่สิวันนี้เวรเธอขัดห้องน้ำ
แค่นึกก็เหนื่อยแล้ว เพราะถ้าดูจากขนาดห้องแล้วคงจะอีกนานกว่าจะเสร็จ
“วันหยุดแน่เหรอเรา”เจ้าบริ๊งคอตกแต่ก็จำต้องยอมรับชะตากรรมอย่างช่วยไม่ได้
“ก๊อกๆ”เสียงเคาะประตูดังขึ้นเจ้าบริ๊งล่ะสายตาจากประตูห้องน้ำเปลี่ยนไป
เป็นประตูห้องแทน เจ้าตัวมุ่นคิ้วน้อยๆนึกสงสัยว่าใครกันเพราะ
บรรดาเพื่อนๆของเธอคงไม่มีทางมาหาเธอเป็นแน่ถ้าไม่เดือดร้อน
บริ๊งรีบยืดตัวมองผ่านตาแมว แล้วเจ้าตัวก็ยิ้มแป้นที่รู้ว่าเป็นใคร
“พี่ภัทรๆๆๆ”เจ้าตัวดีเหมือนมีชีวิตอีกครั้งรีบเปิดประตูต้อนรับแขกผู้มาเยือน
“อ้าว...เพิ่งตื่นเหรอบริ๊ง”สาวสวยข้างห้องทักเมื่อเห็นว่าเจ้าของห้องอยู่
อยู่ในชุดนอนลายคิตตี้สีหวาน
“พี่ภัทร..”เจ้าบริ๊งลิงโลดรีบกระโจนเข้าใส่(ถุงที่ภัทรถือมา)
“เอ๋เรานิ...อดอยากมาจากไหน”ภัทรยิ้มขำแล้วยกถุงหิ้วทั้งหมดที่หอบหิ้วมาให้บริ๊ง
“You’re my life saving” เจ้าบริ๊งเก๊ก ทำหน้าซาบซึ้งแล้วรีบกุลีกุจอ ต้อนรับแขกผู้มาเยือน
“อยู่คนเดียว?” ณภัทรถามขณะเดินดูรอบๆ
ห้องของพี่ชายเธอที่ปกติเจ้าตัวก็ไม่ค่อยได้ได้พักอาศัยซักเท่าไรอยู่แล้ว
ตอนนี้กลับดูเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ข้าวของที่แทบไม่เคยมีอะไรมีมากขึ้น
บางสิ่งที่หาไม่ได้ในห้องของชายโสด กองหนังสือ นิตยสาร มากมายหลากหลายฉบับ
สินค้าโปรโมท
แต่ที่สะดุดตาเธอดูจะเป็นโต๊ะทำงานของพี่ชายเธอที่เคยโล่งสะอาดตา
แต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วย ตุ๊กตุ่นตุ๊กตา
ราวกับโต๊ะของนักรียนชั้นประถมไม่มีผิด
ณภัทรเอื้อมมือจะไปหยิบเจ้าแมวสีฟ้าชื่อดังจากต่างแดนที่เป็นขวัญใจของเด็กๆ
เกือบค่อนโลกขึ้นมาดู แต่เธอก็ต้องชะงักเมื่อเสียง
18หลอดของเจ้าบริ๊งดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“อย่า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” บริ๊งตะโกนดังลั่น เป็นครั้งแรกที่
ณภัทรเห็นบริ๊งสนใจอย่างอื่นมากกว่าของกิน
เจ้าตัวรีบถลาวิ่งมาหาเธอพร้อมหน้าตาตื่นตกใจ
“อย่า เตะ ของ เจ๊ เด็ดขาด” เจ้าบริ๊งว่าหอบๆเพราะรีบวิ่งมา
“หือ” ณภัทรอมยิ้มแต่ก็ไม่วาย หยิบเจ้าแมวตัวฟ้าขึ้นมาอยู่ดี
“ต...ตายแน่....พี่ภัทร บริ๊งตายแน่” เจ้าบริ๊งถึงกับเข่าอ่อน
“อะไรกันบริ๊งแค่ตุ๊กตาเอง ทำไมถึงแตะไม่ได้ล่ะ”
ณภัทรยิ้มขำกับท่าทางโอเวอร์แอคติ้งของบริ๊ง “ก็ใช่มันแค่ตุ๊กตา
แต่นั่นมันของเจ๊ บรีซ ตายแน่ งานนี้บริ๊งตายแน่”
บริ๊งกลืนน้ำลายแล้วมองผู้มาเยือนสาวสวยที่ยังไม่ยอมเลิกเล่น
จับคอลเลคชั่นเจ้าแมวอ้วนสีฟ้าที่วางอย่างเป็นระเบียบอยู่หลังโต๊ะทำงานของ
พี่ชายเธอขึ้นมาดู มาเล่น
“พี่ภัทร....ยังอยากให้บริ๊งมีชีวิตอยู่มั้ยเนี่ย”
บริ๊งรีบจับเหล่าพลพรรคแมวสีฟ้าที่ภัทรหยิบขึ้นมาเล่นให้วางลงดำแหน่งเดิม
เธอเพ่งสายตาและพยายามวางลงให้ตรงกับตำแหน่งเดิมมากที่สุด
“อะไรจะขนาดนั้นบริ๊งหืม...พี่เราน่ะน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือไง
แค่ของเล่นเองนะ” ณภัทรยิ้มขำเธอจับ
โดราเอม่อนตัวใหญ่ที่อยู่บนชั้นโชว์ใกล้ๆโต๊ะทำงานขึ้นมากอดไว้แนบอก
“อ๊าก พี่ภัทร ตัวนั้นไม่ได้” บริ๊งแทบคลั่งเมื่อเห็นว่าณภัทรทำอะไร
“ทำไมล่ะ ก็มีไว้กอดไม่ใช่เหรอ”
ภัทรยิ้มขำแล้วเดินกิดตุ๊กตาตัวโตนั่งลงที่โซฟาหน้าทีวีขนาดยักษ์
“เจ๊บรีซหวง ห่วง ไอ้แมวอ้วนนั่นยิ่งกว่าบริ๊งอีก
ขนาดบริ๊งเองยังไม่เคยได้แตะเลย แล้วพีภัทร ทำแบบนั้น บริ๊งตายแน่”
เจ้าบริ๊งหน้าถอดสี เมื่อเห็นว่าณภัทร ทั้งกอด
ทั้งขยำเจ้าแมวอ้วนสีฟ้าของพี่สาวเธอด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ไม่หรอก...อย่าลืมสิ ว่าพี่เป็นใคร ถ้าพี่เธอจะทำอะไรก็........เข้าใจนะ”
ณภัทรฉีกยิ้ม เจ้าตัวแสบก็ยิ้มตาม ใช่แล้ว ตอนนี้เธอรู้แล้วนี่น่า
ว่าพี่สาวสุดโหดของเธอกลัวอะไร เธอมีนางฟ้าสุดสวยคนนี้เหมือนเป็น
เทพคุ้มภัยประจำตัวไปแล้ว “จริง......ของพี่”
เจ้าบริ๊งยิ้มแล้วคว้าเจ้าแมวอ้วนที่ตัวเล็กกว่าตัวที่ภัทรกอดอยู่มาเล่น
บ้าง เธอระบายแค้นใส่ตุ๊กตาตัวนิ่ม สะสางความแค้น ทั้งกอด ทั้งขยำ ทั้งขยี้
เธอเคยนึกอิจฉาเจ้าตุ๊กตาพวกนี้ที่พี่สาวเธอดูจะโอ๋
มากกว่าน้อสาวแท้ๆอย่างเธอด้วยซ้ำไป
Innocen't devil
เล่ม 1และ 2 ยังมีอยู่นะคะ
ราคาหนังสือ
Innocent's devil เล่ม1 185บาท
Innocent's devil เล่ม2 235บาท
1. สำหรับผู้สั่งซื้อ เล่ม 1 และเล่ม2 = 235(เล่ม2)+185(เล่ม1)+17ซองกันกระแทกC4+70(ลงทะเบียน)
รวมต้องชำระ 507 บาท
2.สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ เล่ม 2 = 235+17(ซองกันกระแทก)+50(ลงทะเบียน)
รวมต้องชำระ 302 บาท
3.สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ เล่ม 1 = 185+17+50
รวมต้องชำระ 252 บาท
Innocent's devil เล่ม1 185บาท
Innocent's devil เล่ม2 235บาท
1. สำหรับผู้สั่งซื้อ เล่ม 1 และเล่ม2 = 235(เล่ม2)+185(เล่ม1)+17ซองกันกระแทกC4+70(ลงทะเบียน)
รวมต้องชำระ 507 บาท
2.สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ เล่ม 2 = 235+17(ซองกันกระแทก)+50(ลงทะเบียน)
รวมต้องชำระ 302 บาท
3.สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ เล่ม 1 = 185+17+50
รวมต้องชำระ 252 บาท
วิธีการแจ้งโอนเงิน
เลขที่บัญชี 736-2-28423-0
>>>เช็คชื่อบัญชีดีๆนะคะระวังผิด(Morakot W.)<<<
ธนาคาร กสิกรไทย สาขาย่อยถนนรามคำแหง
--------------------------------
หมายเหตุ : หลังแจ้งการโอนเงินแล้ว
กรุณาอีเมล์บอก(subject : ค่าหนังสือ IND)
เมล์ aphrodite_eve@hotmail.com
1.ชื่อ -นามสกุลที่จะให้จัดส่ง
2หนังสือเล่มที่ต้องการซื้อ ยอดการโอน(ลงท้ายเป็นเศษสตางค์)
3.หลักฐานการโอนเงิน เวลาที่โอน สาขา หรืออะไรก็ได้ที่ระบุว่าท่านเป็นผู้โอนเงิน ทางผู้แต่งจะได้สามารถเช็คได้นะคะ
ปล. มีปัญหาอะไรสามารถ เมล์มาสอบถามได้นะคะ หรือจะทิ้งไว้ในfacebook ก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น