Innocen't devil
เล่ม 1และ 2 ยังมีอยู่นะคะ
 
ราคาหนังสือ
Innocent's devil เล่ม1 185บาท
Innocent's devil เล่ม2 235บาท

1. สำหรับผู้สั่งซื้อ เล่ม 1 และเล่ม2 = 235(เล่ม2)+185(เล่ม1)+17ซองกันกระแทกC4+70(ลงทะเบียน)
รวมต้องชำระ 507 บาท
2.สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ เล่ม 2 = 235+17(ซองกันกระแทก)+50(ลงทะเบียน)
รวมต้องชำระ 302 บาท
3.สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ เล่ม 1 = 185+17+50
รวมต้องชำระ 252  บาท

วิธีการแจ้งโอนเงิน
เลขที่บัญชี 736-2-28423-0
  >>>เช็คชื่อบัญชีดีๆนะคะระวังผิด(Morakot W.)<<<
ธนาคาร กสิกรไทย สาขาย่อยถนนรามคำแหง
--------------------------------
หมายเหตุ : หลังแจ้งการโอนเงินแล้ว
กรุณาอีเมล์บอก(subject : ค่าหนังสือ IND)
เมล์ aphrodite_eve@hotmail.com
1.ชื่อ -นามสกุลที่จะให้จัดส่ง
2หนังสือเล่มที่ต้องการซื้อ ยอดการโอน(ลงท้ายเป็นเศษสตางค์)
3.หลักฐานการโอนเงิน เวลาที่โอน สาขา หรืออะไรก็ได้ที่ระบุว่าท่านเป็นผู้โอนเงิน ทางผู้แต่งจะได้สามารถเช็คได้นะคะ
ปล. มีปัญหาอะไรสามารถ เมล์มาสอบถามได้นะคะ หรือจะทิ้งไว้ในfacebook ก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ
 
 
 

12.7.55

Trap of the next Door 03

ยามบ่ายแสนสบาย น้องสาวตัวแสบก็ไม่อยู่งานก็เคลียเรียบร้อย ห้องก็จัดเสร็จหมดแล้ว เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกที่อะไรๆเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น หลังจากทานมื้อเที่ยงอย่างง่ายๆ เจ้าตัวก็เอนหลังลงที่เก้าอี้นวมตัวใหญ่ใกล้ประตูกระจกที่เปิดรับลมสบายๆ แดดลมลมตกแบบนี้ช่างน่านอนหลับเสียซักงีบน่าจะดี เธอนึก

แต่ความสงบเงียบที่เจ้าตัวกำลังฝันถึงก็มลายหายไปทันที ที่ได้ยินเสียงปึงปังมาจากห้องข้างๆ “วุ้ย” เธออุทานอย่างหัวเสีย ชะโงกขึ้นมามองผนังห้องที่เป็นที่มาของเสียง เธอขมวดคิ้วจ้องมันอยู่ซักพัก แรงสะเทือนเล็กๆที่ผนังสั่นไหวอยู่ไม่นานก็นิ่งสงบไป เธอถอนหายใจและคิดว่าคงจะไม่มีอะไรมารบกวนการนอนพักยามบ่ายของเธออีกนะ

แต่แล้ว...ก็เหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นราวกับจะรู้ตัวและจ้องรังควานเธอ เอนหลังไปได้ไม่กี่นาทีกำลังเคลิ้มๆจะเข้าสู่นินทารมณ์ เสียงปึงปังก็ดังขึ้นอีก
“แว๊กๆๆๆอะไรกันฟร่ะ” เธอสบถอย่างหัวเสีย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ใครกันหนอช่างมารบกวนการนอนของเธอ เจ้าตัวจ้องผนังห้องสีครีมอ่อนเขม็ง แรงสั่นสะเทือนที่ผนังทำให้รู้ว่าคงไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากเจ้าของห้องข้างๆ ผู้หญิงที่เธอรู้สึกไม่ถูกชะตาอย่างแรงตั้งแต่แรกเห็น(ในลิฟท์)

“อีกทีนะ ให้อีกที” เธอกัดริมฝีปากเบ้หน้า เวลาผ่านไปซักพัก เมื่อไม่มีเสียงอะไรดังอีกเธอจึงเอนหลังลงอีกครั้งและ “โป๊กๆ ปึงๆ ปังๆ” เสียงเจ้ากรรมก็ดังขึ้นอีกเหมือนกับจะแกล้งกัน “ไม่ไหวแล้วโว้ยยย” เธอตะโกนลั่นสุดเสียง รีบวิ่งตรงดิ่งไปที่ระเบียงห้องที่ติดกัน อยากจะรู้นักว่าคนไม่มีมารยาทจะว่ายังไง

“นี่คุณ.....คุณ” สาวสวยของเราตะโกนเรียกเสียงดังแถมยังยื่นหน้าออกไปนอกริมระเบียงโดยไม่ได้ กลัวเลยว่า นี่มันชั้น37นะแม่คุณ... เธอพยายามจะตะโกนเรียกคู่กรณีอีกหลายครั้งแต่ก็ยังไร้ซึ่งปฎิกริยาโต้ ตอบกลับมา เจ้าตัวพยายามจะชะง้อคอยื่นคอยาวแต่ก็มองเห็นเพียงปลายผ้าม่านสีม่วงเข้มที่ โดนลมพัดโบกสะบัดให้เห็นเท่านั้น

“คนอะไรว่ะ”เธอบ่นหัวเสียแล้วจึงเดินปึงปังกลับเข้าไปให้ห้อง และก็เหมือนว่าห้องข้างๆจะเหมือนแกล้งเธอทันทีที่เธอจะหย่อนตัวนั่งลงที่ โซฟา เสียงสั่งสะเทือนก็ดังขึ้นมาอีก เธอหัวควับไปมองที่ผนังห้องที่กำลังสั่นน้อยๆเพราะแรงสะเทือน

“ให้ตายสิ”วงหน้าสวยเริ่มบิดเบี้ยวด้วยความโมโห เธอลุกขึ้นคว้าโทรศัพท์ กดระรัวไปยังเบอร์ห้องข้างๆทันที เสียงสัญณาณยาว ติดต่อกันอยู่หลายครั้ง และก็ถูกตัดไปในที่สุด เธอกระแทกโทรศัพท์ลงแล้วก้าวอาดๆออกจากห้องทันที ไม่รู้ไปเคยสร้างเวรสร้างกรรมอะไรไว้หรือยังไง ถึงต้องเจอคนที่อยู่ห้องข้างๆสร้างวีกรรมกับเธอแบบนี้

“ก๊อกๆๆ” เธอระรัวเคาะลงไปที่บานประตูหรู เงียบ...ไม่มีปฏิกริยาโต้ตอบอะไรเกิดขึ้น “ก๊อกๆๆๆๆๆ” เธอเคาะระรัวเร็วขึ้นอีก แต่...ก็ยังคงนิ่ง สาวสวยของเราถึงกับควันของหูไม่คิดว่าจะเจอกับใครที่จะมารยาทแย่ขนาดนี้
“ก๊อกๆๆๆๆ นี่คุณ ๆๆๆๆ” เธอเคาะประตูอีกครั้งแล้วตะโกนเรียกผู้เป็นเจ้าของห้องเสียงดัง และแล้วประตูก็เปิดออก เธอเตรียมอ้าปากจะต่อว่าต่อขานเต็มทีบวกกับอารมรณ์ที่อัดอั้นมาจากวันก่อน ด้วย แต่เธอก็ต้องชะงักเมื่อ คนที่มาเปิดประตูกลับเป็ยชายหนุ่มร่างยักษ์ที่ในมือกำลังถือ สว่านหรือ เลื่อยไฟฟ้า หรืออะไรซักอย่างที่เธอก็ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร เขาถอดหูครอบที่ป้องกันเสียงรบกวนออกจากหู
“ว่าไงครับ”
“เอ่อ คือว่า...คือว่า...”(ไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว) เธอยืนงงอยู่หน้าประตูและหนักกว่านั่นเมื่อมองเข้าไปภายในห้อง ยังมีชายอีกหลายคนที่คาดว่าน่าเป็นช่าง หรืออะไรก็เถอะกำลังวุ่นวายอยู่ภายในห้องเหมือนกำลังจะรื้อห้อง หรือปรับปรุงห้องอยู่

“มีอะไรเหรอคะ ช่าง” เสียงเล็กๆอีกเสียงดังแทรกเสียงดังหนวกหูจากเครื่อมือหลากหลายชนิดขึ้นมา และเสียงนี้ก็ราวกับเสียงอาญาสิทธิทันที่เธอเอ่ยปากพูด ทุกคนก็หยุดทำงานแทบจะอัตโนมัติ

“คุณคนนี้...”ช่างเบี่ยงตัวหลบให้ผู้เป็นเจ้าของห้องได้ยลโฉมแขกผู้มาเยือนให้ถนัดตาขึ้น
“อ๋อ” เธอเพียงแค่ปลายตามองแขกผู้มาเยือนเล็กน้อย และถ้าตาไม่ฝาด ผู้มาเยือนก็เห็นรอยยิ้มเยาะเหมือนเมื่อวันก่อนไม่มีผิด
“ช่างทำงานต่อเถอะคะ เดียวภัทรจัดการเอง” เธอเจื่อนยิ้มบอกช่าง
“ครับคุณหนู” ชายร่างยักษ์ทำตามอย่างว่าง่ายและก็เป็นอีกครั้งที่เธอแอบเห็นว่าช่างคนนั้นน้อมตัวเหมือนคำนับหญิงสาวเจ้าของห้อง

“มีอะไร” เจ้าของห้องถามผู้มาเยือนด้วยวาจาห้วนห้าว

“คุณจะทำอะไรฉันไม่สนใจหรอกนะ แต่หัดมีมารยาทเกรงใจคนอื่นบ้าง รู้มั้ยว่ามันหนวกหู เสียงดังขนาดไหน” แค่เห็นหน้าอารามไม่พอใจก็พุ่งทะลุเพดานเสียแล้ว ยิ่งเจอหน้าตาเฉยเมินทำเหมือนกับเธอไม่มีตัวตนด้วยนั่นยิ่งแล้วใหญ่
“ไม่พอใจ?”เจ้าของห้องถอนหายใจปรายตามองแขกผู้มาเยือน
“แล้วคุณคิดว่าไงล่ะะ มาขอบคุณมั้ง” เป็นไปไม่ได้เสียล่ะที่คนอย่างเธอจะยอมง่ายๆเธอสวนกลับไปทันที
“งั้นก็ย้ายออกไปสิ” เจ้าของห้องบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย เธอยักไหล่เหมือนไม่สนใจว่าคนที่กำลังยืนตัวสั่นด้วยความโกธร กำหมัดแน่นนั้นไม่พอใจเพียงไหน “หยาบคาย ไร้มารยาทที่สุด คนอะไรหน้าตาก็ดี นิสัยแย่” เธอตวาดเสียงดังลั่นจนบรรดาช่างที่กำลังง่วนทำงานอยู่ภายในห้องถึงกับหยุด และหันมามอง

“คุณหนูครับ เกิดอะไรขึ้น” ชายร่างยักษ์ที่เป็นคนเปิดประตูรีบวิ่งออกมาดูเหตุการณ์ “เปล่า ไม่มีอะไรหรอกช่าง ไปทำงานต่อเถอะ ภัทรบอกแล้วไงเดียวจัดการเอง” เจ้าของห้องชักเริ่มมีอารมณ์ไม่พอใจขึ้นมาบ้างแล้ว “ครับๆ”หัวหน้าช่างรีบถอยหนีกลับเข้าไปในห้องทันทีที่ได้ยินคำสั่ง “ฉันจะฟ้องนิติ” แขกผู้มาเยือนขู่(ฟ่อๆ) เธอสะบัดหน้าแล้วเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองด้วยอารมณ์โมโหสุดขีด

“ไม่ย้งไม่อยู่มันแล้ว” เธอพึมพำแล้วระรัวนิ้วกดรหัสปลดล็อก 10หลักเร็วจี๋เข้าไปในห้องแล้วกระแทกปิดเสียงดัง ทิ้งให้อีกฝ่ายยืนอมยิ้ม?อยู่หน้าห้องของตัวเอง “ก็เคยบอกแล้วไง ว่าซักวันเราต้องเจอกันอีก..”เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆแล้วเดินกลับเข้าห้องของ ตัวเองไป

ทันทีที่ถึงห้องสิ่งแรกที่เธอมองหาก็คือโทรศัพท์ และก็เป็นไปอย่างที่เจ้าตัวเคยได้พูดเอาไว้ สิ่งแรกที่เธอทำคือการโทรหานิติของอาคารหรูแห่งนี้ “ค่ะ สวัสดีค่ะ มีเรื่องจะแจ้งค่ะ”ว่าแล้วเจ้าตัวก็อธิบายให้นิติฟังโดยไม่ลืมที่จะใส่สีตี ไข่เล็กน้อยถึงห้องข้างๆด้วย

“เอ่อ คุณครับใจเย็นๆก่อนนะครับ” ปลายสายที่อ้าปากจะตอบโต้แต่ทำไม่ได้เพราะเธอไม่เว้นช่องว่างให้เขาพูดแทรก ได้เลย “ใครจะไปเย็นไหวล่ะคะคุณ ไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเลยหรือไง ว่า ห้องข้างๆฉันมารยาททรามขนาดไหน แถมยังไม่เกรงใจกันเลย”

“ครับๆ ผมเข้าใจ ตะ...แต่ คุณว่าคุณอยู่ห้องอะไรนะครับ” ชายหนุ่มถามกลับเหมือนไม่แน่ใจในสิ่งที่เธอกำลังเล่า
“โอ้ยคุณนิ ตั้งใจฟังหน่อยสิคะ ฉันบอกว่า ชั้น 37ห้อง 2E” เธอเริ่มหัวเสียมากขึ้นไปอีกคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันด้วยความไม่พอใจ
“ห้องคุณ ณัฎฐ์ ใช่มั้ยครับ” เขาดูเหมือนลังเล
“ใช่ค่ะ”
“งั้นห้องข้างๆที่คุณมีปัญหาก็ห้องของคุณณภัทร”
“แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไงละคะว่าชื่ออะไร ฉันไม่ได้ถามชื่อไว้นี่แล้วคุณจะถามทำไมให้มากความค่ะ ฉันแค่ต้องการให้คุณจัดการให้ฉัน จะตักเตือนจะอะไรก็ว่าไปสิคะ” เธอตีหน้ายุ่งหนักกว่าเดิมที่นิติของอาคารหรูระดับนี้ทำตัวเหมือน...ไม่ค่อย ฉลาด
“แล้วคุณ ณัฎฐ์ ไปไหนครับ ขอเรียนสายท่านหน่อยได้มั้ยครับ”เขาตอบเสียงสั่นดูเกร็งๆ
“ไม่อยู่ค่ะ ฉันเป็นเลขาของคุณณัฎฐ์ ทำไมถึงต้องถามมากมายแบบนี้คะ เรื่องแค่นี้”
“โถ่คุณครับ เห็นใจผมบ้างสิครับ เล่นจะให้ผมไปเตือน เจ้าของตึกแบบนี้ ผมก็พนักงานกินเงินเดือนนะครับ แถมคุณภัทรเธอ...”เขาอธิบายยังไม่ทันจบ สายก็ถูกตัดไป

“เจ้าของตึก....”อารมณ์โกธร อารมณ์โมโหที่กำลังมีอยู่หายไปจนหมดสิ้น เหลือแต่เพียงความอึ้งและทำตัวไม่ถูก นี่เธอดันไปตวาดเจ้าของตึกเข้าให้แถมยังขู่ว่าจะฟ้องร้องนิติอีกเหรอนี่

“แล้วไงเจ้านายฉันก็หนึ่งในตองอูนะยะ” เธอยิ้มแล้วรีบระรัวนิ้วโทรหาเจ้านายของเธอทันที อย่างมากก็แค่ออกไปจากที่นี่จะได้ไม่ต้องเจอะต้องเจอคนมารยาททรามอีก ก็คงจะดีอยู่ไม่น้องเพราะตัวเธอเองก็ไม่ได้ต้องการจะอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก อยู่แล้วเช่นเดียวกัน เธอรออยู่ไม่นานก็มีคนรับสาย

“บอสคะ”
“ว่าไง คุณ บรีซ มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าผมกำลังยุ่งอยู่” เสียงเย็นๆปลายสายทำให้อารมณ์ที่กำลังปะทุอยู่ หยุดชะงักทันที นี่เธอกำลังทำเรื่องอะไรอยู่ เรื่องส่วนตัวแท้ๆแต่จะ..ฟ้องเจ้านาย

“เอ่อ...คือว่า”เธออ้ำอึ้ง
“ครับ ว่าไง” เขาถามต่อ
“คือ ห้องข้างๆ...ห้องข้างๆ..”เธอไปต่อไม่ถูก นึกไม่ออกว่าจะพูดอะไรดี
“ห้องข้างๆ...อ้อ เจอกันแล้วใช่มั้ย ดีเลย เจ้าภัทรจะได้ไม่เหงา ผมคงต้องอยู่ที่นี่อีกซักสองเดือนนะ ยังไงคุณก็ช่วยดูๆน้องสาวผมด้วยล่ะ...อืม แค่นี้ก่อนนะคุณบรีซผมต้องพรีเซ้นต์งานแล้ว..”ทันทีที่เขาพูดจบเขาก็ตัดสาย ลงทันที

“นะ...น้องสาว...บอส” โทรศัพท์แทบร่วงลงพื้น
“...ตาย....หอ...ง..แล้วชั้น” เธอทรุดตัวลงกองกับพื้น ราวกับวิญณาญกำลังจะออกจากร่าง ชีวิตของเธอจบสิ้งลงแล้ว ซวยซ้ำซวยซ้อนอย่างไม่ต้องสงสัย

“เจ้าของตึก น้องสาวบอส” สองประโยคนี้คงจะตามหลอกตามหลอนเธอไปอีกนาน...แสนนาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น