Innocen't devil
เล่ม 1และ 2 ยังมีอยู่นะคะ
 
ราคาหนังสือ
Innocent's devil เล่ม1 185บาท
Innocent's devil เล่ม2 235บาท

1. สำหรับผู้สั่งซื้อ เล่ม 1 และเล่ม2 = 235(เล่ม2)+185(เล่ม1)+17ซองกันกระแทกC4+70(ลงทะเบียน)
รวมต้องชำระ 507 บาท
2.สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ เล่ม 2 = 235+17(ซองกันกระแทก)+50(ลงทะเบียน)
รวมต้องชำระ 302 บาท
3.สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ เล่ม 1 = 185+17+50
รวมต้องชำระ 252  บาท

วิธีการแจ้งโอนเงิน
เลขที่บัญชี 736-2-28423-0
  >>>เช็คชื่อบัญชีดีๆนะคะระวังผิด(Morakot W.)<<<
ธนาคาร กสิกรไทย สาขาย่อยถนนรามคำแหง
--------------------------------
หมายเหตุ : หลังแจ้งการโอนเงินแล้ว
กรุณาอีเมล์บอก(subject : ค่าหนังสือ IND)
เมล์ aphrodite_eve@hotmail.com
1.ชื่อ -นามสกุลที่จะให้จัดส่ง
2หนังสือเล่มที่ต้องการซื้อ ยอดการโอน(ลงท้ายเป็นเศษสตางค์)
3.หลักฐานการโอนเงิน เวลาที่โอน สาขา หรืออะไรก็ได้ที่ระบุว่าท่านเป็นผู้โอนเงิน ทางผู้แต่งจะได้สามารถเช็คได้นะคะ
ปล. มีปัญหาอะไรสามารถ เมล์มาสอบถามได้นะคะ หรือจะทิ้งไว้ในfacebook ก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ
 
 
 

13.7.55

Kiss me Kill me 01


01   แรกพบของหัวแดงแรงสุดๆกับยัยแอ๊บใสตัวแม่



...................................................................................................................


   “ปีการศึกษาใหม่   น้องปีหนึ่งก็ใหม่  ฮิ้ว....”   หนุ่มอ้วนยิ้มทะเล้นเรียกเสียงโห่จากเพื่อนๆที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่

 “โน้น  มาโน้นแล้วน้องเอกเรา”   สาวแว่นป้องปากตะโกนบอกเมื่อเห็นน้องๆพากันเดินเป็นแถวตรงมาหารุ่นพี่ที่นั่งรออยู่ใต้ร่มไม้     ในกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยหมาดๆของสายบริหารกลับมีดาวรุ่งเด่นสะดุดเข้าตารุ่นพี่อย่างจัง

 “โอโห่เฮ้ย  ปีนี้ใช่เล่นเลยว่ะ”  หนุ่มตี๋หนึ่งในพี่อบรมจงใจพูดเมื่อเห็นสีผมแดงเด่นของน้องคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในกลุ่ม    ทำให้หนุ่มอ้วนลุกเดินเข้าไปหาตามทางที่น้องๆขยับแหวกทางให้

 “หัวนิแดงมาเลยนะ   แรงครับแรง”  เสียงเข้มดังชัดเจน  ไหนยืนขึ้นสิ

  เด็กสาวค่อยๆลุกขึ้น  ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองรุ่นพี่ตรงหน้าด้วยท่าทีไร้การยำเกรง   ยิ่งเพิ่มความหมั่นไส้เข้าไปใหญ่

 “ชื่ออะไรครับ

 “มิ้นค่ะ”   เธอบอกเสียงเรียบทำให้หนุ่มอ้วนพยักหน้ารับ

 “น้องมิ้นนะ  พี่เข้าใจว่าอยู่ม.ปลายอัดอั้นมานานเลยอยากปล่อยผี   แต่ที่ไหนๆก็มีกฎครับ  ไม่ใช่นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ !”   เสียงเข้มตวาดจนน้องๆในแถวนั่งเงียบมองหน้ากันไปมา   แต่ตัวคนโดนว่ากลับยืนนิ่งแถมยังจ้องหน้ารุ่นพี่ตอบชนิดไม่กลัวเลย

 “หวังว่าพรุ่งนี้หัวน้องคงจะเป็นสีเดิมที่บรรพบุรุษให้มานะ”  
 รุ่นน้องไม่พยักหน้า ไม่รับปากด้วยซ้ำ    ทำแค่ควักกระเป๋าสตางค์ออกมาแถมยังทำเอาคนรอบข้างพากันอึ้งกับ
แบรนเนมสุดหรูที่อยู่ในมือ   ถึงจะไม่มีใครรู้ว่าของแท้ของปลอมแต่ก็รู้ว่าคนเป็นเจ้าของรสนิยมสูงขนาดไหน

 “อ่าวๆ  นี่จะยัดเงินปิดปากพี่รึไง”   พี่อบรมหน้าโหดร่างท้วมหรี่ตาทำหน้าดุใส่

 “ก็แค่จะหาหลักฐานให้ดูน่ะค่ะ  เอ๋รึพี่อยากจะได้ค่าปิดปากจริงๆ”   เสียงแหลมตอบโต้กลับ  ใบหน้าสวยเผยยิ้มยียวนทำเอาพวกพี่ๆอึ้ง  ทึ่งไปตามๆกัน

 “นี่ค่ะ”   บัตรประชาชนถูกยื่นใส่มือกร้านอวบอ้วนสีแทน

 “มีนชญา  แฮนเดรย์  อ่าว! ลูกครึ่งหรอกเหรอ”  สิ้นเสียงห้าวๆของรุ่นพี่  ก็มีเสียงฮือฮาซุบซิบดังไปทั่ว

 “ค่ะ”   เจ้าของบัตรยิ้มรับ

 “ จะรู้ได้ไงว่าหัวแดงจริงไม่จริง  ไม่ใช่ไว้เป็นข้ออ้างเหรอน้อง”   รุ่นพี่สาวแว่นป้องปากตะโกนให้ได้ยินกันถ้วนหน้า

 “พลิกดูอีกด้านสิคะมีรูปแด๊ดอยู่”   พอพลิกดูตามที่บอกรุ่นพี่ร่างท้วมถึงกับอ้าปากค้างเมื่อเห็นรูปถ่ายฝรั่งผู้ชายวัยสามสิบต้นๆผมสีแดงเข้มอุ้มเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆผมสีแดงเอาไว้แนบอก

 “ของจริงว่ะ”  เขาหันไปชูให้เพื่อนดูจนพวกที่นั่งอยู่ลุกมาดูกันใหญ่

 “นี่ครับพี่คืนให้”  

 “ค่ะ  สงสัยเชื่อออสเตรียจะแรงเลยหัวแดงน่ะค่ะ”   เจ้าของกระเป๋าสตางค์แบนเนมหรูไม่วายส่งคำพูดแถมท้าย
 “แรง”   “เออ  แรงจริงอะไรจริง”   “กล้าเนอะ”    “โดนพี่เอาลงบัญชีดำแน่ๆ”    นานาเสียงซุบซิบจากเพื่อนร่วมรุ่นดังกันให้แซ่ด  แต่คนที่ตกเป็นเป้าหมายกลับยักไหล่ไม่สนใจ

........................................................................................................................

 ถึงเวลาพักกลางวันน้องๆก็แยกย้ายกันถือข้าวกล่องที่ได้รับแจกจากรุ่นพี่ไปนั่งหามุมทานข้าวตามใจชอบ   มิ้น  หรือที่เพื่อนในห้องแอบเรียกกันว่า  หัวแดงแรงสุดๆ   นั่งอยู่ใต้ต้นไม้คนเดียว  พอเปิดกล่องโฟมสีขาวแล้วเจอกับผัดกระเพาหมูสับราดข้าวก็ใช้ช้อนตักกินแบบอ้อยอิ่งๆ   นัยน์ตาสีเทาอมดำมองไปทางเพื่อนกลุ่มอื่นที่จับกลุ่มกันพูดคุยระหว่างกินอย่างสนุกปาก    พลันสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับสาวหน้าหวานที่รายล้อมไปด้วยเพื่อนทั้งชายและหญิง  
 น่ารักดี.....    ริมฝีปากบางระบายยิ้มกับความคิดตัวเอง
 จู่ๆก็มีอมยิ้มยื่นมาตรงหน้าทำเอาสาวสวยสะดุ้งน้อยๆ

กินมะ  รึจะเอารส นม”   สาวอวบยิ้มตาหยีข้างๆมีสาวเซอร์ทำหน้าบอกบุญไม่รับ

 “ขะขอบใจ”   มิ้นรับอมยิ้มมาทำหน้างงๆ

 “เราแมวน้ำนะ ส่วนไอ้ตัวพูดน้อยนี่  โซดา”   มืออวบๆตีไหล่เล็กของคนข้างๆเบาๆ

 “ใครเป็นไอ้ตัวพูดน้อย  เดี๋ยวแม่ตบ”   พูดไม่พูดเปล่าโซดายกมือขึ้นทำท่าจะตบหัวเพื่อนจริงๆ

 “ลองเด้ๆ  เดี๋ยวแม่กระโดดทับซะนิ”  คนจะโดนประทุบร้ายเองก็ไม่วายทำท่าจะกระโดดเข้าใส่

 ก่อนที่สองสาวจะฟัดกันขึ้นมาจริงๆแต่ต้องชะงักเพราะได้ยินเสียงหัวเราะฮ่าๆ ขำชนิดไม่อายใครดังขึ้นขัดซะก่อน

 “สองคนนี่ตลกดีนะ  ตรงดีเราชอบ

 สาวอวบกับสาวเซอร์มองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมา
 “เออเราสองคนก็ชอบเธอ แรงดี  ฮ่าๆ
จู่ๆก็มีเสียงเฮดังมาจากกลุ่มสาวหน้าหวาน   ทำให้สามสาวหันไปมอง

 “อ่าวหลานอธิการนิ  ชื่อฟามั้ง”   แมวน้ำบอก

 “อืมๆ  มิน่าเพื่อนเยอะ”   โซดาออกความเห็นพยักหน้า

 ฟายิ้มหวาน  แจกยิ้มไปทั่ว  น่ารักน่ามองในสายตาคนทั่วไป  แต่ภายใต้รอยยิ้มใสๆนั่น  มิ้นกลับมองเห็นบางอย่างที่ต่างจากคนอื่นมอง  
 ปากน่ะยิ้มแต่ตาไม่ยิ้ม    ดูไม่จริงใจยังไงไม่รู้!
 มิ้นหรี่ตาลงเบ้ปากขึ้นมา

 “ไม่ชอบอ่ะยิ้มไม่จริงใจ

 “มิ้นว่าไงนะ?”   สาวอวบถามให้แน่ใจเพราะฟังไม่ทัน

 “เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอก”   สาวสวยยิ้มที่มุมปากก่อนจะหันไปมองทางอื่น


........................................................................................................................

 “เลิกสแตนแล้วไปไหนกันดี  ฟาไปด้วยกันไหม

 สาวหน้าหวานยิ้ม
 คนพวกนี้มาตีสนิทไวเกินไปรึเปล่า   ยังไม่ทันสนิทกันก็ชวนไปนั่นไปนี่แล้ว   น่ารำคาญยังไงไม่รู้
 นัยน์ตาสีดำหรี่มองก่อนจะยิ้มหวาน

 “ไปสิ   ไปเที่ยวกับเพื่อนๆท่าทางน่าสนุกดีนะ  ฟาชอบ

 “ฟานี่ไม่เหมือนที่คิดไว้เลยเนอะ”  เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นมา

 “ทำไมเหรอ?”  ฟายิ้มๆเอียงคอถามท่าทางน่ารักสุดๆ

 “ก็เป็นหลานอธิการนึกว่าจะหยิ่งนะสิ  ที่ไหนได้เป็นกันเองไม่ถือตัวด้วย”   “นั่นสิ

 “ก็จะได้สนิทกันไวๆไง”  รอยยิ้มน่ารักๆทำให้คนรอบข้างพลอยยิ้มไปด้วย

 แต่...ความรู้สึกเหมือนโดนจ้องมองด้วยสายตาทิ่มแทงทำให้ฟาหันกลับไปมอง   เห็นสาวผมแดงยืนรวมกลุ่มอยู่กับแมวน้ำและโซดา

 “นี่ไม่ชวนเค้าไปด้วยล่ะ”   เสียงใสๆถามเพื่อนที่รายล้อมอยู่  แต่ทุกคนกลับทำหน้าหวาดๆ

 “ไม่เอาอ่ะ ชีแรงเกิน”   “เออจริงๆ”   “ไม่เอาหรอกขืนเอาคนแรงๆไปแบบนั้นงานกร่อยพอดี

 โธ่เอ้ยอีแค่คนคนเดียวก็ไม่กล้าเข้าไปคุย  ขี้ขลาดจริง  
 สาวหน้าหวานเยียดยิ้มที่มุมปาก
 “งั้นเดี๋ยวฟาไปชวนเอง  จะได้ไปเที่ยวกัน”  เธอเลยหันกลับไปมอง  เห็นสาวร่างท้วมดึงสาวเซอร์ให้เดินไปก่อนเหลือคนหัวแดงแรงสุดๆเอาไว้คนเดียว  

 จะว่าไปหน้าตาก็ออกจะสวยตามแบบฉบับลูกครึ่งทั่วไป  แถมผมยังสีแดงเด่นสะดุดตาอีก   แต่กลับแผ่บรรยากาศชวนอืดอัดไม่น่าเข้าใกล้ยังไงก็ไม่รู้   จะเปลี่ยนใจกลับคำที่พูดไว้ทันไหมเนี่ย!?  
 ฟาเม้มปากแน่นกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะตัดสินใจเดินตรงไปหาอีกฝ่าย

 “มิ้น  เลิกสแตนแล้วไปด้วยกันไหม  พวกทิพย์ก็ไปนะ  คนเยอะๆไปแล้วสนุกดีจะได้สนิทกันไวๆไง
 ริมฝีปากอิ่มโปรยยิ้ม  เอียงคอหน่อยๆให้ดูน่ารักตามสไตล์สาวแบ๊วที่ถนัด

 “หน้าตาก็ออกจะน่ารัก  แต่ยิ้มเสแสร้งแบบนี้ไม่เห็นสวยเลย”   สาวสวยเยียดยิ้มที่มุมปาก

 ความรู้สึกเหมือนถูกตบด้วยคำพูดจนหน้าชามันเป็นอย่างนี้นี่เอง   ทำเอาหน้าหวานๆที่ยิ้มอย่างดีกระอักกระอ่วนจนแทบชักสีหน้าไม่ทัน    ใครจะรู้เล่าว่าจะมีคนมองออกชนิดทะลุปรุโปร่งขนาดนี้    เพราะที่ผ่านๆมาแค่ยิ้มมากๆทำตัวน่ารักๆก็ไม่มีใครว่าอะไรแล้ว   มีแต่คนดีด้วยทั้งนั้น

 “อะ...อะไรเหรอ  ฟาไม่เข้าใจ

 มิ้นเบ้ปากแสดงท่าทีรังเกียจอย่างชัดเจน

 “ไม่เอาไม่ไปหรอก   กลับบ้านดีกว่าขี้เกียจใส่หน้ากากเข้าหากัน
 พูดจบคนตัวสูงก็เดินหนีไปแบบดื้อๆ  ทิ้งให้คนที่ถูกคำพูดโจมตีกำมือเม้มปากขัดใจมองด้วยความโมโหอยู่ตรงนั้น

 ...............................................................................................................



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น