วันนี้เจ้าข้าวก็ลิงโลดร่าเริงเต็มที่ผิดกับอาสาวที่เดินซึม หน้างอเป็นจวักบอกบุญไม่รับตามเจ้าตัวเล็กขึ้นไปบนรถ
"อาอายไม่สบายอะป่าว"เจ้าตัวเล็กเอ่ยถามอาสาวที่นั่งหน้างออยู่เบาะหลัง
"เปล่า" อายตอบเนื่อยๆไม่สนใจมากนัก
"ปวดหัวเย้ย" เจ้าตัวเล็กยังถามต่อ
"เปล่า" อายตอบเหมือนเดิม
"ปวดฟัน..เอาถ้างั้น" ต้นข้าวกระแซะหันไปถามอีก
"บอกว่าเปล่าไง" อายชักเริ่มรำคานเหลือบมองเจ้าตัวเล็กแต่ก็ยังไม่มีอารมณ์จะพูดอะไรอยู่ดี
"เอ้าแล้วเป็นอารายเล่า
อ้อหรือว่าถูกทิ้ง!!"เจ้าตัวเล็กยิงคำถามแทงใจดำอีกแล้ว อาริคาเหลืออด
จนต้องเคาะศีระษะเล็กๆของหลานชายของตัวเองซักที
"อาอายแกล้งข้าวอีกแล้ว" ว่าแล้วก็ร้องไห้จ้า ฟ้องคุณอัครพล
"อายเราน่ะไม่เป็นอะไรแน่นะ" อาร์มเองก็สังเกตถึงความผิดปกติของน้องสาวตัวเองได้เช่นกันจึงลองถามดู
"ไม่เป็นไรค่ะพี่อาร์ม แค่มีเรื่องต้องคิดนิดหน่อยน่ะค่ะ" อายรีบปฎิเสธไม่อยากให้พี่ชายของตัวเองเป็นกังวลไปด้วย
"งั้นก็ดีแล้ว"อาร์มเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรเมื่อน้องสาวตอบแบบนั้น เค้าคงได้แต่เป็นห่วงและมองอยู่ห่างๆ
"เอาล่ะเจ้าข้าว วันนี้คุณพ่อเลิกงานเร็วเดียวจะมารับเราแต่วันนะ" อาร์มลูบหัวลูกชาย ขณะมาส่งที่หน้า รร
"งั้นพี่อารม์มารับเจ้าข้าวกลับบ้านก่อนก็ได้ค่ะอายมีซ้อมละครเวทีคงกลับดึก
เดียวกลับกับศักดิ์ก็ได้ค่ะ" อายบอกพี่ชายเนื่อยๆ
แล้วจูงมือเจ้าข้าวไปส่งให้คุณครูที่ยืนรับเด็กๆที่หน้าประตูโรงเรียนเหมือน
ทุกวัน
"อืม เอางั้นก็แล้วกันนะ"อาร์มยิ้มแล้วลูบหัวน้องสาว อายยิ้มแห้งๆให้พี่ชายแล้วพยักหน้ารับ
"เห้อออ"ว่าแล้วอาคิราก็ถอนหายใจอีกรอบหลังจากส่งเจ้าข้าวแล้วเธอก็ชะเง้อ
มองฝั่งตรงข้ามถนนที่คุณหมอคนสวยมาส่งน้องเมย์ที่ รร
แต่สงสัยวันนี้จะมาเร็วไปเธอถึงไม่เห็นวี่แววของทั้งคุณแม่และคุณลูก
"อย่าไปชอบเค้า เค้ามีเจ้าของแล้วท่องไว้สิอายเอ๊ยยยย"
อาริคาหงุดหงิดตัวเองที่ยังไม่ยอมลืมภาพรอยยิ้มหวานๆของคุณหมอ
เธอเดินไปบ่นไปจนคนที่เดินอยู่แถวๆนั้นต้องหันมามองเธอ
นั่นแหละถึงรู้ว่าตัวเองคงบ่นพึมพำเสียงดังไป
"น้องอาย น้องอายคะ น้องอาย" อาคิรากำลังหงุดหงิดจึงไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง
คุณหมอคนสวยที่เมื่อส่งลูกสาวเสร็จก็มีอาการไม่ต่างจากสาวจอมโก๊ะ
เธอเองก็พยายามมองหาอาคิราจนลูกสาวตัวเล็กเอ่ยถามว่าเธอกำลังมองหาอะไรอยู่
รึเปล่า
แอมเลี้ยวรถกลับเพื่อจะมุ่งตรงไปที่ทำงานก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงตัวเล็กกำลัง
เดินบ่นพึมพำเป็นหมีกินผึ้งหน้างอไม่มองทาง
ก้มหน้างุดๆเหมือนกำลังหาของที่ตกอย่างไงอย่างงั้น
เธอยิ้มแล้วจึงขับรถตามสาวตัวเล็กที่ดูเหมือนจะไม่สนใจอะไรรอบตัวเลยซักนิด
เดียว
"ปิ๊นๆ" จนหมอแอมอดรนทนไม่ไหวที่อาคิราไม่หันมาสังเกตเธอซักที
หมอแอมจึงแกล้งบีบแตรรถเสียงดังใส่ เมื่อนั้นแหละ
อายจึงจะหันมามองด้วยความตกใจ "แว๊กกก"อายสะดุ้งเฮือก
พร้อมกับกระโดดหลบราวกับตัวเองกำลังจะถูกรถชน
เมื่อหันซ้ายหันขวาถึงระลึกว่า ตัวเองเดินอยู่บนฟุตบาทไม่ใช่กลางถนน
เธอจึงยิ้มเก้อๆออกมา
ทันทีที่อายหันไปมองก็เห็นใบหน้าสวยกำลังยิ้มและเรียกเธอ
อายยิ้มกว้างด้วยความดีใจ แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่เธอเพิ่งจะบอกตัวเองว่า
คุณหมอมีเจ้าของแล้ว แถมนัดแรกคุณหมอยังผิดนัดอีก นึกขึ้นได้มาแบบนั้น
อาคิราก็หุบยิ้มลงในทันที แถมยังค้อนขวับแจกคุณหมอคนสวยเสียอีก
อายทำเป็นไม่มอง แล้วเดินต่อไป
โดยไม่สนใจจะหันมามองรถคันโตสีน้ำเงินเข้มนั้นอีก
“น้องอาย น้องอายคะ”
คุณหมอแอมเมื่อเห็นใบหน้าหวานๆที่กำลังยิ้มให้เธอแล้วอยู่ดีๆก็เปลี่ยนไป
เป็นสลดแถมยังค้อนให้เธออีก ก็นึกสงสัยว่า อาคิราคงกำลังไม่พอใจเธออยู่แน่ๆ
แอมยิ้มแล้วขับรถตามร่างเล็กๆที่เหมือนจงใจจะเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น
เหมือนต้องการจะหนีเธอไป
“น้องอายคะ พี่แอมขอโทษนะคะ” คุณหมอขับรถเทียบฟุตบาท
ขับช้าๆตามสาวขี้งอนที่เพียงแอบมองเธอก่อนจะเชิดหน้าหนี
แล้วเร่งฝีเท้าเร็วกว่าเดิม แอมยิ้มขำกับการกระทำเหมือนเด็กๆของอาคิรา
จนในที่สุด หมอแอมก็ขับรถเลยไปโดยไม่หันมามองอาคิราอีก
อายหน้าสียหรือเธอจะเล่นตัวมากเกินไป เธอนึกก่อนหยุดเดินแล้วนิ่วหน้าเล็กๆมองท้ายรถสีน้ำเงินคันสวยที่ไม่มีวี่แววว่าจะจอดหรือชะลอ
“เชอะ”เธอรู้สึกน้อยใจ แต่ก็ดีแล้วที่คุณหมอไม่สนใจเธออีก
เธอจะได้ตัดใจได้ไวๆแต่ทั้งๆที่คิดแบบนั้นแล้ว
ภายในจิตใจกลับรู้สึกสับสนมากกว่าเดิม อายถอนหายใจเบาๆแล้วจึงเดินต่อไป
เวลาไม่ถึง10นาที เธอก็เดินมาถึงมหาวิทยาลัยด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นท้ายรถยนต์สีน้ำเงินจอดรออยู่ข้างหน้า
พร้อมร่างสูงเพรียวที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆยิ่งเมื่อเห็นหน้าเธอรอยยิ้มของคุณ
หมอก็ดูจะกว้างขึ้นอีก
ภาย ในใจของอาคิราไม่ต้องบอกก็คงจะรู้ว่าดีใจแค่ไหน
แต่ไม่ได้เธอจะมายอมจำนนเพียงเพราะรอยยิ้มหวานๆนั้นไม่ได้
อาคิราคิดก่อนจะตีหน้าบึ้งเหมือนเดิน แล้วทำเป็นไม่สนใจ
จะเดินผ่านรถคันงามรวมทั้งเจ้าของแสนสวยที่ยืนยิ้มให้เธอ
“น้องอายคะ พี่แอมขอโทษจริงๆน้า”แอมเดินอ้อมรถคันโตมาดักหน้าคนขี้งอนที่ยังก้มหน้าไม่สนใจจะมองเธอ
“ไม่ต้อง ขอโทษอายหรอกค่ะ เรื่องแค่นี้ไม่ได้สำคัญอะไร” เธอมุ่นหน้าเบ้ปาก
พูดประชดประชันได้แสบนัก แอมถอนหายใจอย่างหน่ายๆ
แล้วพยายามจะมองดวงตาคู่หวานที่ยังพยายามจะหาทางหลบสายตาของเธอ
“ถึงน้องอายจะเห็นว่ามันไม่สำคัญ แต่มันสำคัญสำหรับพี่นี่คะ”แอมย่อตัวลงอีกเพื่อจะมองหน้าของอาคิราที่ยังก้มหน้ามองพื้น
“สำคัญด้วยเหรอคะ” อายยังไม่ยอมเลิกงอนง่ายๆเธอแสร้งพูดออกไปอีก ทั้งๆที่ก็รู้ว่าคุณหมอพยายามจะง้อเธอ
“สำคัญสิคะ สำคัญมากด้วยหรือน้องอายคิดว่ามันไม่สำคัญจริงๆ” ว่าแล้วแอมก็ตีสีหน้าเศร้าให้คนขี้งอนเห็นบ้าง
“คือ....ไม่ใช่ว่า...เอ่อ ช่างเถอะค่ะ”อายทำหน้าไม่ถูก
คำพูดกับความรู้สึกของเธอกำลังสับสนยุ่งเหยิง
ยิ่งได้เห็นสีหน้าของแอมที่ดูเศร้าไปนั่น
ยิ่งทำให้เธอใจหายวูบรู้สึกใจอ่อนยวบขึ้นมาทันที
“ฟังพี่แอมอธิบายก่อนนะคะ” แอมยังหน้าเศร้า พยายามจะอธิบายให้สาวขี้งอนฟัง
“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ”ไม่ได้ เธอจะมาใจอ่อนตอนนี้ไม่ได้ต้องตัดใจ
อายฝืนใจพูดออกมาอย่างยากลำบาก แล้วพยายามจะเดินหนี
เธอคิดว่าถ้ายังคุยกันอยู่แบบนี้เธอต้องใจอ่อนแน่ๆ
“น้องอาย อย่าทำแบบนี้สิค่ะ”
ในที่สุดแอมก็ตัดสินใจคว้าข้อมือเล็กๆของสาวหน้าหวานไว้
ทั้งๆที่เธอเองไม่ใช่คนที่ง้อคนเก่งเท่าไรแต่กับผู้หญิงคนนี้
ทำไมเธอกลับรู้สึกแคร์มากถึงเพียงนี้ แอมนึกสงสัยตัวเอง
"ปล่อย อายจะเข้ามหาลัย"
"ไม่ปล่อย ก็น้องอายไม่ยอมฟังอะไรเลยนี่คะ"แอมนิ่วหน้าเมื่อดูเหมือนว่าเด็กขึ้งอนคนนี้จะไม่ยอมฟังเธออธิบายอะไรเลย
"ปะ ปล่อยก่อนสิคะคนมองกันใหญ่แล้ว" อายหน้าแดงแล้วลดเสียงลงกระซิบบอกแอมเบาๆเมื่อเห็นว่าคนแถวนั่นเริ่มแตกตื่นหันมามองพวกเธอ
"ไม่ค่ะ จนกว่าน้องอายจะยอมฟัง" แอมไม่พูดอะไรอีก
ยังกำข้อมือเล็กๆนั่นไว้แน่นดูท่าเด็กขี้งอนคนนี้จะใจแข็งกว่าที่คิด
คงไม่ดีแน่ขืนยังไม่ทำอะไรซักอย่าง
แอมจึงตัดสินใจรั้งข้อมือเล็กๆที่ยังพยายามจะขัดขืนเธออยู่ถูลู่ถูกัง
พาไปที่รถพร้อมกับดันตัวผู้หญิงขี้งอนให้เข้าไปนั่งหน้างุ้มอยู่ในรถ
"พี่แอมมมม ปล่อยอายนะ"อาคิราตะโกนโวกเวกขณะที่แอมปิดประตูและล็อค
"พี่แอมว่าเราไปหาที่นั่งคุยกันให้รู้เรื่องดีกว่า"
แอมบึ้งหน้าแล้วไม่ฟังเสียงโวยวายของอายอีก
เธอรีบสตาท์รถแล้วขับออกไปจากที่นั่นอย่างเร็วที่สุด
"พี่แอมวันนี้อายมีเรียนนะ"อาคิราหน้าแดงพยายามจะอ้างเหตุผลให้แอมยอมปล่อย
เธอลง แต่ทั้งๆที่คำพูดกับการกระทำจะแสดงถึงความไม่พอใจ
แต่ในใจของเธอกลับเป็นตรงกันข้ามเสียนี่
แอมยังคงไม่พูดอะไรเพ่งสมาธิไปที่การขับรถมากกว่า
เธอคิดว่าอยู่เฉยๆแล้วเดียวอายคงจะเลิกโวยวายไปเอง
หากเธอไม่คิดจะต่อล้อต่อเถียงด้วย แล้วก็เป็นอย่างที่เธอคิด
เมื่ออายเห็นว่าคุณหมอคนสวยไม่สนใจที่เธอกำลังประท้วงเอะอะเสียงดัง
อายก็หยุด(เหนื่อยมากกว่า) เหลือเพียงแค่อาการนั่งหน้างอเป็นม้าหมากรุกแทน
ระยะเวลาเงียบๆที่ผ่านไปอย่างเชื่องช้าเพราะการจราจรที่แสนแออัดของเมือง
หลวง ทำให้คนสองคนมีเวลาพิจารณาตัวเองและอีกฝ่ายมากขึ้น
หลังจากที่นั่งปั้นหน้าเป็นม้าหมากรุกอยู่นาน
อายก็เริ่มหันมามองคุณหมอคนสวยที่เป็นคนขับรถแทน วันนี้คุณหมอใส่ชุดสบายๆ
เสื้อคลุมพอดีตัวสีเหลืองอ่อนสดใสทับเสื้อลูกไม้สีขาวเบาบางกับกระโปรงจีบสี
ดำที่สั้นเลยเข่าขึ้นมาเล็กน้อยเผยให้เห็นเรียวขาขาวนวลเล่นเอาอายใจเต้นไม่
เป็นส่ำ ใบหน้าหวานที่มีการแต่งหน้าเพียงอ่อนๆ
ลิปสติกสีหวานมองไปมองมาอายก็ยิ้มออกจนคนที่ถูกจ้องคงจะรู้สึกได้
แอมหันมายิ้มหวานให้อาคิรา
"หายโกธรแล้วเหรอคะ"แอมทักเมื่อเห็นว่าอาคิราเลิกตีหน้ายักษ์แล้วมองเธอด้วย
รอยยิ้ม แต่ก็อย่างที่บอกว่าอาคิราน่ะเป็นคนที่อ่านออกง่ายมากถึงมากที่สุด
เธอสะดุ้งเล็กน้อย ไม่รู้ว่าคุณหมอเองก็กำลังมองเธอ
เธอจึงแกล้งตีหน้างอให้คุณหมอคนสวยดูอีกรอบ
แอมอมยิ้มไม่ต้องการจะเร่งรัดอะไรอีก ในเมื่อคนตัวเล็กอยากงอนนัก
เธอก็จะปล่อยให้งอนเสียให้เต็มที่แอมจึงหันไปสนใจกับหนังสือเล่มเล็กที่มัก
จะพกไว้อ่านบนรถเวลาที่การจราจรคับคั่งแบบนี้แทน
คนหนึ่งอ่านหนังสือไปเรื่อยๆอย่างไม่เป็นทุกข์เป็นร้อน
แต่อีกคนเริ่มมีอาการลุกลนให้เห็น อาคิราขยับตัวแล้วขยับอีก
ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่ยอมปริปากออกมาเสียที
จนในที่สุดก็คงจะทนไม่ไหว ยอมทิ้งอาการงอนชั่วคราวเอ่ยปากถามหมอแอมในที่สุด
"พี่แอมจะพาอายไปไหน" ประโยคที่ออกมาจากริมฝีปากบางๆนั้น แอมละสายตาจากหนังสือที่อ่าน แล้หันมาสนใจสาวข้างๆแทน
"ไม่รู้สิคะ
พี่แอมแค่อยากให้น้องอายใจเย็นลงแล้วยอมฟังเรื่องที่พี่แอมจะพูดก็เท่านั้น
เองแต่น้องอายไม่ยอมฟังอะไรเลย พี่แอมถึงต้องทำแบบนี้ไงคะ"
แอมอธิบายพร้อมยิ้มรอดูว่าสาวหน้าหวานจะหาข้อแก้ตัวว่าอะไร
"ก็...อายแค่"อาคิราพูดแผ่วเบาใจหนึ่งก็รู้หรอกนะว่าตัวเองเอาแต่ใจและไม่
ฟังเหตุผล แต่จะให้พูดออกไปได้อย่างไรว่าเธองอนที่หมอแอมผิดนัด
แถมยังน้อยใจที่หมอแอมขับรถหนีไปโดยไม่สนใจเธออีก
นึกแล้วเธอก็ทำใจแข็งนิ่งเงียบไปอีก
"แค่อะไรคะ"แอมยิ้มแล้วถามอีก
"ไม่รู้ค่ะ"อายหน้าแดงแล้วตอบปัดไม่สนใจ
"แล้วน้องอายพร้อมจะฟังพี่อธิบายรึยังคะ" แอมตั้งคำถามถามคนขี้งอนอีกครั้ง
"ค่ะ"อายพยักหน้าหงึกๆเข้าใจ
"แต่ว่า...พี่แอมชักหิวแล้วสิ เดียวเราไปหาอะไรทานกันก่อนนะคะ
ถือว่าเป็นการเลี้ยงชดเชยที่เมื่อวานพี่แอมผิดนัดกับน้องอายด้วย
โอเคมั้ยคะ" แอมอธิบายพร้อมเริ่มมองหาทางที่จะยูเทินร์รถกลับ
"แล้ววันนี้พี่แอม ไม่ไปทำงานเหรอคะ"อายที่คงจะหายงอนจริงๆแล้วหันมาถามอย่างสงสัย
"อืมมมม ก็มีนะคะ
แต่ทำไงได้ล่ะคะพี่มีอย่างอื่นที่สำคัญกว่าที่ต้องทำนี่"แอมอมยิ้มแล้ว
เหลือบมองสาวหน้าหวานที่กำลังก้มหน้างุดด้วยความอาย
"วันนี้พี่เวรดึกค่ะ มีเวลาอยู่กับคนขี้งอนได้ทั้งวันล่ะค่ะ"แอมยิ้มหัวเราะอีกครั้งเมื่อเห็นอายเม้มปากมองค้อนเธอเข้าให้
"พี่แอมอะ"อายพึมพำกับตัวเองเบาๆรู้สึกอิ่มเอิบขึ้นมาในใจอย่างบอกไม่ถูกที่หมอแอมเห็นว่าเธอสำคัญถึงขนาดนี้
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังสนุกกับการพูดคุย
หลังจากแม่สาวขี้งอนเลิกงอนได้ไม่นาน
เจ้าเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋ากระโกรงของอาคิราก็แผดเสียงจ้าขึ้นมา
"แก๊ๆแก." คงจะเป็นใครไปเสียไม่ได้แล้วละกับการทักทายแบบนี้หนึ่งเดียวเท่านั้นศักดิ์ชัยนั่นเองที่โทรมา
"โอ๊ย!!!!!.เบาๆก็ได้ หูจะแตกแล้ว ว่าไงมีไร"
อายนึกรำคานเพื่อนรักขึ้นมาในทันทีที่บังอาจมาขัดจังหวะการสนทนาระหว่างเธอ
และคุณหมอคนสวย
"หนอยยยยยหล่อนคนเค้าอุส่าห์เป็นห่วงโทรมา กล้าทำเสียงแบบนี้ใส่ชั้นนะย่ะ"ศักดิ์ชัยถมึงตึงขึ้นมาบ้างที่อายพูดราวกับรำคานเธอ
"แฮะๆ ขอโต้ดจ่ะ
นางสาวแซมมี่สุดสวยมีอะไรเหรอเจ้าคะ"อายยิ้มเก้อๆส่งให้คุณหมอแอมที่ทำท่า
ทางแปลกใจ ที่เห็นลีลาดุเด็ดเผ็ดมันในการโต้ตอบระหว่างตัวเธอกับศักดิ์ชัย
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่แอม.เพื่อนสนิทอายเอง"อายยิ้มหวานให้พร้อมกับป้องปากลดเสียงคุยกับศักดิ์ชัยลง
"นี่หล่อนอยู่ไหนย่ะรู้มั้ยว่าที่คณะเค้าวุ่นกันขนาดไหนโดยเฉพาะยัยจินตนาน่ะเป็นลมไปแล้ว"ศักดิ์ชัยจีบปากจีบคอเล่าเรื่อง
"เป็นลม….?.!?แล้วมันเกี่ยวอะไรกับชั้นล่ะ"อาคิราขมวดคิ้วอย่างสงสัย
"แล้วเมื่อเช้าหล่อนไปก่อเรื่องอะไรไว้ล่ะย่ะ"ศักดิ์ชัยถามต่อ
"เมื่อเช้า..??.เปล่านิ" อายยังนึกไม่ออกจริงๆว่าเมื่อเช้าเธอไปก่อเหตุอะไรไว้
"ยังจะมาเปล่า เมื่อเช้ามีคนเห็นแกโดนลากขึ้นรถของใครก็ไม่รู้ไปนิย่ะ
อกอิแป้นจะแตก
หล่อนรู้มั้ยชั้นล่ะเป็นห่วงนึกว่าแกจะถูกจับส่งขายมาเลซะแล้วนะนั่น"
ศักดิ์ชัยบ่นน้ำเสียงกระเง้ากระงอด
"อ๋อ...เรื่องนั้นเองไม่มีอะไรหรอก ตอนนี้ขั้นอยู่กับพี่แอมน่ะ"อายป้องปากพูดเบาๆ
"ต๊ายตายๆ แล้วหล่อนไปอยู่กับคุณหมอได้ยังไงย่ะ เกิดอะไรขึ้นเล่ามาซะดีๆ"ศักดิ์ชัยโพลงตาโต เอามือแนบหน้าอกราวกับตกใจ
"ไว้ก่อนได้ม่ะ ชั้นอยู่บนรถเนี่ย นะแกนะ ขอชั้นอยู่กับพี่แอมตามลำพังซักพักนะ"อายกระซิบกระซาบบอกเพื่อนเบาๆ
"แล้วทางนี้จะเอายังไง
ยัยจินตนาโวยวายนึกว่าแกโดนอุ้มไปแล้วจะไปแจ้งตำรวจอยู่เนี่ยแกจะให้ชั้นทำ
ยังไงย่ะ"ศักดิ์ชัยตะคอกเสียงกรอกลงไปอย่างเหลือดอด
"เพื่อนรัก ศักดิ์เพื่อนร๊ากกก ชั้นรู้แกจัดการได้ชิมี๊ๆ"อาคิราทำเสียงอ้อน
"ย่ะๆ งั้นเดียวชั้นจะเคลียเรื่องที่นี่เอง
ส่วนแกน่ะรู้แล้วใช่มั้ยว่าหมอแอมน่ะเค้ามีคนของเค้าอยู่แล้ว
แกควรจะทำยังไงชั้นคงไม่บอกนะอาย"
ศักดิ์ชัยบอกเสียงเรียบรู้อยู่แล้วว่าอาคิราดีใจขนาดไหนที่ได้อยู่ใกล้ๆคุณ
หมอคนสวยแต่เธอก็อยากให้เพื่อน ยอมรับความจริง
อย่าทนฝืนปล่อยความรู้สึกไปมากกว่านี้
"อือขอบใจแกมากนะที่เตือนชั้น ชั้นจะพยายาม"อายพึมพำบอกเพื่อนเบาๆก่อนที่สีหน้าจะกลับมาสลดเหมือนเดิม
"แล้วเรื่องละครเวทีน่ะยังไงแกคงหนีไม่พ้นแล้วล่ะ
แกโดดวิชายัยจินตนาจนเวลาเรียนจะไม่พอแล้วนะอาย
ยังไงก็รีบๆกลับมาซ้อมละครเวทีด้วยก่อนที่จะถูกปรับตกล่ะ
เข้าใจนะ"ศักดิ์ชัยเตือนเพื่อนอีกครั้งด้วยความหวังดี
"อือ"อายฝืนยิ้มแล้ววางสายไปในที่สุด
"น้องอายเป็นอะไรรึเปล่าคะ เมื่อกี้ยังเห็นอารมณ์ดีอยู่เลย
แล้วนี่หน้าเศร้าอีกแล้ว"แอมสงสัย
เธอชักจะเริ่มตามอารมณ์ขึ้นๆลงๆของอาคิราไม่ทัน
"วันนี้อายคงจะอยู่กับพี่แอมทั้งวันไม่ได้ หรอกนะคะ"อาคิราก้มหน้าพูดเบาๆ
"อ้าวทำไมล่ะค่ะ"แอมนิ่วหน้าเล็กๆเอียงคอถามอย่างสงสัย เมื่อดูเหมือนว่า สาวน้อยข้างๆเธอเริ่มจะปรับสภาพเข้าสู่โหมดงอนอีกครั้ง
"ก็เดียวตอนบ่ายพี่แอมก็ต้องไปรับลูกสาว
อายหมายถึงน้องเมย์....ไม่ใช่เหรอคะ..แล้วอายเองก็คงต้องอยู่ซ้อมละครเวที
แล้วไหนจะเอ่อ....แฟนของพี่แอม คุณพ่อของน้องเมย์อีกอายไม่รบกวนดีกว่าค่ะ
พี่แอมจอดรถตรงป้ายรถเมล์หน้าก็ได้ค่ะเดียวอายกลับเองได้"อายพูดตะกุกตะกัก
ทันทีที่นึกขึ้นมาได้ ถึงเรื่องครอบครัวของคุณหมอ
เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรแบบนี้กับแอม อย่าว่าแต่ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำเลย
ไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดด้วยซ้ำอายเริ่มรู้สึกผิดและน้อยใจตัวเองขึ้นมา
แอมยิ้มมุมปากพอจะเข้าใจว่าอายต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ แล้วเข้าใจว่าอาคิราช่างเป็นผู้หญิงที่ทึกทักเดาเรื่องราวเอาเองได้เก่งนัก
"น้องอายอยากทานอะไรคะ"แอมหันไปยิ้มหวานถามคนหน้างอ
"พี่แอมไม่ได้ฟังที่อายพูดเลยหรือไงค่ะ"อาคิราโพล่งออกมาเสียงดัง
ทั้งๆที่ตัวเธอเองกำลังพยายามทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่แท้ๆ
แต่คุณหมอคนสวยดูจะไม่ให้ความร่วมมือเอาเสียเลย "ฟังสิคะ
ก็ฟังมาตลอดทาง"แอมยังอมยิ้มดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนผิดกับคนข้างๆที่เริ่มมีอาการ
กระเง้ากระงอดให้เห็น
"ก็แล้วทำไมถึง"อาคิราทำท่าจะพูดต่อแค่แอมก็แย่งพูดเสียก่อน
"อาหารอิตาเลี่ยนก็แล้วกันนะคะ พี่แอมกำลังอยากทานสปาเก็ตตี้อยู่พอดี
โอเคน้า"แอมเองก็ดูจะสนุกกับการได้แกล้งคนขี้งอน
เธอแกล้งทำเป็นไม่สนใจเสียนี่
ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าสู่ที่จอดรถของห้างใหญ่ใจกลางเมือง
"พี่แอมทำไมไม่ยอมฟังที่อายพูดบ้างเลยละคะ"อาคิราขึ้นเสียงตวาดเสียงดังใส่คุณหมออย่างเหลืออดแล้วหายใจฟึดฟัดความความไม่พอใจ
"น้องอายจะหยุดโวยวายเองดีๆหรือจะให้พี่ทำให้น้องอายหยุดคะ"
ท่าทางปั้นปึงดูจะไม่ได้มีผลต่อใบหน้าหวานๆของคุณหมอเลยซักนิด
เธอเอี้ยวตัวเข้าไปหาอาคิราและโน้มหน้าหวานของตัวเองเข้าหาใบหน้าของอาคิรา
ราวกับต้องการจะบอกว่าเธอจะหยุดปากช่างพูดนั่นเสีย....ด้วยริมฝีปากของตัว
เอง
"พี่แอม"อาคิราหน้าแดงเมื่อเห็นริมฝีปากบางของคุณหมออยู่ห่างจากใบหน้าเธอ
ไม่กี่นิ้วจนสามารถรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่กำลังเป่ารดอยู่บนใบหน้าของ
เธอ
"พี่ไม่ใช่คนพูดเล่นนะ
เอาล่ะลงมาค่ะแล้วไปหาอะไรทานกัน"แอมพูดเบาๆหลังจากคนขี้งอนหยุดโวยวาย
แล้วถอยห่างออกมาอยู่ในระยะเดิม
และเธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าการที่ได้แกล้งแหย่สาวขี้งอนข้างๆจะทำให้ใบ
หน้าของตัวเองรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาได้
แถมยังนึกอยากจะทำอย่างที่ตัวเองพูดออกไปเสียนี่
แอมลงจากรถสีน้ำเงินเข้มคันหรู..แต่สาวที่นั่งข้างๆกลับยังนั่งเฉยหน้างอไม่
ยอมลงมาจากรถเสียที แอมยิ้มก่อนจะอ้อมไปเปิดประตูรถให้อาคิรา
"ลงมาสิค่ะ
พี่แอมหิวจะแย่อยู่แล้ว"เสียงหวานๆทำให้อายเหลือบมองคุณหมอจอมเผด็จการ
ก่อนที่เธอจะยอมทำตามอย่างว่าง่ายแล้วเดินหน้างอตามร่างเพรียวที่ดูคล่อง
แคล่วนั้นไปอย่างช้าๆภายในใจก็คิดถึงท่าทางของคุณหมอที่ทำราวกับต้องการจะ
จูบเธอจริงๆอย่างนั้น แค่นี้อาคิราก็เกิดอาการหน้าแดงจัดขึ้นมาอีกครั้ง
"เร็วๆสิค่ะ"แอมหันมามองคนที่เดินต้อยๆตามเธอก่อนจะเดินวกกลับมาหาแล้วจูง
มือเล็กๆของอายให้เดินไปพร้อมกับเธออาคิราเองก็เอาแต่ก้มหน้ามองพื้นไม่ยอม
หันมามองคนที่กำลังจูงมือเธอ
"พี่แอมปล่อยเถอะค่ะ
อายเดินเองได้"แม้ว่าจะเข้ามาอยู่ภายในตัวห้างสรรพสินค้าชื่อดังแล้วก็ตามที
แต่ดูเหมือนคุณหมอคนสวยยังเกาะกุมมือเล็กๆของอาคิราอยู่ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ
"เดียวน้องอายวิ่งหนี พี่ก็แย่สิค่ะขอไม่ปล่อยแล้วกันนะ"แอมพูดยิ้มๆแล้วไกวมือข้างที่จับมือของอายไว้ราวกับเด็กๆ
"พี่แอม"อายพึมพำเบาๆแล้วปล่อยให้มือข้างนั้น ถูกแอมกุมไว้ต่อไปโดยไม่คิดจะขัดขืนอีก
"ศักดิ์ชัย ติดต่ออายได้มั๊ย"จินตนานิ่วหน้า
พร้อมกับยิงคำถามรัวๆใส่เพื่อนสนิทของอาย ศักดิ์ชันหันไปมองแล้วยิ้มหวาน
ก่อนจะค่อยๆบอกว่า
"อ้อ!!!!ไม่มีไรหร๊อกค่าจารย์คงเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันมากกว่า
คนที่มารับยัยอายเมื่อเช้าก็คนรู้จักกันน่ะค่ะ."ศักดิ์ชัยจีบปากจีบคอบอก
"ใคร!!!.คนรู้จักอาย ชั้นก็รู้จักเกือบหมด เป็นไปไม่ได้ต้องมีอะไรแน่ๆ
บอกมาเดียวนี้นะศักดิ์ชัย"เมื่อมีเรื่องราวเกี่ยวกับอาคิราที่ดูจะหลงหูหลง
ตาเธอไปนั่นย่อมทำให้เธอทนไม่ได้จินตนารีบตรงดิ่งเข้าไปเขย่าแขนของศักดิ์
ชัยไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ศักดิ์ชัยเล่า
"แหมอาจารย์ขา หนูจะไปรู้ได้ยังไงล่ะค่ะ
ก็เจ้าตัวเขาบอกมาอย่างนั้นว่าไม่เป็นไรๆนี่ค๊า"ศักดิ์ชัยพยายามอธิบายแต่
จินตนาเองกลับยังไม่อยากเชื่อทุกคำพูดของศักดิ์ชัยเธอรู้ดีว่าเพื่อนรักของ
อาคิราคนนี้
พยายามจะเป็นก้างขวางคอเธอมาตลอดแทบจะทุกครั้งที่เธออยู่กับอาคิราตามลำพัง
จะต้องมีเหตุให้ศักดิ์ชัยเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ
"ชั้นไม่เชื่อ เอาเบอร์มือถืออาคิรามาสิ ชั้นจะพูดเอง"จินตนาว่าพลางพยายามจะแย่งมือถือสีชมพูสดใสของศักดิ์ชัยไป
"อาจารย์ขา จะโทรไปให้ลำบากทำไมล่ะค่ะ
อีกอย่างโทรไปตอนนี้อาคิราจะไม่พอใจซะเปล่าๆน้าค๊าๆ
คิคิ"ศักดิ์ชัยแกล้งพูดยั่วให้จินตนาโมโหเล่น
"เธอหมายความว่าอะไรพูดมานะ"ใบหน้าสวยคมเริ่มบูดบึ้งอย่างไม่พอใจตลอดระยะ
เวลาสี่ปีที่เธอเที่ยวพยายามทำทุกวิถีทางให้อาคิรามาเป็นของเธอให้ได้เธอจะ
ไม่ยอมให้เรื่องแค่นี้ มาทำลายทุกอย่างที่เธอวางไว้เด็ดขาด
"แหมๆเรื่องแค่นี้ยังต้องให้หนูอธิบายอีกเหรอคะ
ตอนนี้ยัยอายกับอยู่กับคนสำคัญของเค้า
แฟนน่ะค่ะอาจารย์รู้จักม๊ายคำว่าแฟนน่ะค่าๆ
แล้วที่เห็นทะเลาะกันเมื่อเช้าคงจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อยแต่ที่โทร
ไปถามเมื่อกี้ก็โอเคแล้วนี่ค่ะ แหมๆ
อาจารย์จะโทรไปเป็นก้างขวางคอคนเค้าจะกระหนุงกระหนิงกันทำไมล่ะค๊า คิ
คิ"ศักดิ์ชัยลอบยิ้มหัวเราะสะใจอย่างบอกไม่ถูกแม้ว่าเรื่องที่เธอพูดจะเป็น
เรื่องแหลสดกันซึ่งๆหน้า
แต่ในอีกด้านหนึ่งก็ดีแล้วยัยอาจารย์คนนี้จะได้ตัดใจเลิกมาวุ่นวายกับเพื่อน
ของเธอซักที
"ไม่จริง ชั้นไม่เชื่ออย่ามาโกหก!!"จินตนาหน้าร้อนวูบ
พยายามควบคุมอารมณ์และความรู้สึกไม่พอใจไว้ภายใน
ทั้งๆที่ในใจเธออยากจะกรีดร้องออกมาเสียให้มันรู้แล้วรู้รอด
"แล้วอาจารย์จะเดือดร้อนทำไมคะเนี่ย
แค่ลูกศิษย์หายไปกะแฟนของตัวเองแค่เนี้ย"ศักดิ์ชัยยังไม่หยุดแหลเธอกำลัง
สนุกกับการได้เห็นสีหน้าทุกข์ใจของจินตนาแถมยังจงใจเน้นเสียงคำว่าลูกศิษย์
ให้จินตนาหน้าหงายอีกต่างหาก
"ชั้นก็แค่กังวลก็คนที่มาเล่าเขาบอกว่าอาคิราถูกฉุดขึ้นรถไป
แถมอาคิราเองเวลาเรียนวิชาชั้นก็แทบจะไม่พออยู่แล้วคำตอบเรื่องจะแสดงละคร
เวทีของชั้นก็ยังไม่ได้ตอบ
ยังไงเธอก็ช่วยเตือนๆเพื่อนเธอหน่อยแล้วกันว่าถ้าไม่อยากตกวิชานี้ก็ให้มา
เรียนบ้าง"ว่าแล้วจินตนาก็หันหลังควับเดินค้อนศักดิ์ชัยไปดูไม่ค่อยพอใจนัก
"แหมๆ อยากให้มาเรียนหรืออยากจับเพื่อนชั้นกดกันแน่ย่ะ เชอะ"ศักดิ์ชัยแอบนินทาเบาๆ ก่อนจะมองค้อนให้เข้ามั้ง
"น้องอายจะทานอะไรดีคะ"เมื่อลากสาวขี้งอนมานั่งหน้างอในร้านอาหารอิตาเลี่ยน
บรรยากาศสบายๆแล้วคุณหมอ
ก็ยิ้มหวานให้อาคิราพร้อมกับเอ่ยถามว่าคนขี้งอนที่นั่งตรงกันข้ามอยากจะทาน
อะไร
"อายไม่หิว"อาคิรามองค้อนตอบเสียงแข็งแล้วเอาหลอดน้ำคนน้ำในแก้วเล่น
แอมยิ้มหวานให้แล้วหันไปบอกบริกรที่คอยรับเมนู ว่าขออาหารเหมือนกัน2ชุดแทน
"ลองทานดูนะคะ สปาเก็ตตี้ ไวท์ซอสร้านนี้อร่อยมากเลย
พี่แอมเคยพาน้องเมย์มาทานด้วยกันบ่อยๆ"ว่าแล้วก็ส่งยิ้มหวานๆให้คนหน้างออีก
ครั้งโดยไม่คิดจะสนใจปฏิกริยาของคนขี้งอน ที่เอาแต่จะคอยส่งค้อนให้เธอ
"พี่แอมอยากจะอธิบายอะไรก็ว่ามาค่ะ
ตอนบ่ายอายไม่ว่าง"ยิ่งคุณหมอทำไม่สนใจเธอมากเท่าไรอาคิราก็ยิ่งมีอาการ
กระเง้ากระงอดให้เห็นหนักขึ้น
คุณหมอคิดอะไรอยู่ทั้งๆที่ตัวเองก็มีครอบครัวแล้วมีลูกสาวที่น่ารักขนาดนั้น
แถมสามีก็คง..อายพยายามจะไม่คิดสลัดภาพเจ้าของของคุณหมอที่อยู่ในหัวเธอไป
แต่ยิ่งพยายามมากเท่าไรความอิจฉากับมีมากขึ้นๆ
จนตัวเธอเองไม่อยากจะอยู่ในสภาพนี้แบบตอนนี้แล้ว
"น้องอายอยากรู้เรื่องไหนก่อนล่ะคะ"แอมอมยิ้มนั่งเท้าคางมองหน้าบึ้งๆของอาคิรา
"ก็เรื่องที่พี่แอมบอกว่าจะอธิบายไงคะจะเรื่องไหนอีก"อายว่างอนๆ
"อ้อเรื่องนั้น
ค่ะคือพี่แอมมีเคสผ่าตัดด่วนก่อนเวลาที่น้องอายนัดไว้ไม่กี่นาทีเองค่ะ
แล้วพี่แอมก็พยายามจะโทรติดต่อกลับไปแล้วแต่ดูเหมือนจะไม่มีใครรับสาย"แอมอ
ธิบายเบาๆให้คนที่ทำท่าตั้งใจฟังราวกับกำลังเลคเชอร์อยู่ในห้องเรียนก็ไม่
ปานฟัง
"เหรอคะ อายก็ว่าอยู่ว่าทำไมถึงมีมิสคอลจากพี่แอมเยอะจัง
ตอนนั้นอายกำลังร้องเพลงอยู่ค่ะ"ทันทีที่รู้เหตุผลว่าทำไมคุณหมอถึงผิดนัด
เธอ
อาคิราก็ฉีกยิ้มราวกับเด็กขึ้นมาเอาง่ายๆคงจะไม่ต้องย้ำอีกครั้งว่าอาคิรา
น่ะช่างเป็นผู้หญิงที่....
"ร้องเพลง? ถึงว่าล่ะ ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของพี่
ที่แท้ก็มัวแต่สนุกอยู่นี่เอง"ว่าแล้วแอมก็นึกอยากจะแกล้งคนขี้งอนบ้าง
เธอแกล้งตีแก้มป่องใส่อาคิราราวกับรู้สึกผิดหวังสุดๆที่อาคิราไม่สนใจจะรับ
โทรศัพท์ของเธอ
"มะ..มะไม่ใช่นะคะพี่แอมคือ พอดีเจ้าของร้าน
พี่ต้นน่ะค่ะเค้าชอบเสียงของอายเลยอยากให้อายไปร้องเพลงประจำที่ร้านน่ะค่ะ
แล้วตอนที่พี่แอมโทรมาคงจะเป็นตอนที่อายร้องเพลงอยู่พอดี
ก็เลยก็เลยไม่ได้ยิน
พี่แอมอย่าเข้าใจผิดสิคะ"อาคิราลนลานพยายามจะอธิบายให้หมอแอมที่แกล้งนั่ง
หน้างอฟัง
"ถ้าอย่างนั้น
อายก็อย่าเข้าใจผิดเรื่องของพี่บ้างสิค่ะ"แอมทนไม่ไหวที่เห็นอาการน่ารักๆ
ของอาคิราจนเธออดยิ้มไม่ได้ต้องเลิกแกล้งงอนแล้วอธิบายให้อาคิราฟังบ้าง
“อายขอโทษค่ะ"อาคิราหน้าแดงแล้วยิ้มเก้อๆส่งให้คุณหมอ
"ไม่เห็นต้องขอโทษเลยน้องอายไม่ได้ทำอะไรผิดนี่คะ
พี่ซะอีกที่ผิดที่ผิดนัดน้องอาย"แอมยิ้มน้อยๆอธิบายให้คนตัวเล็กที่ดูเหมือน
จะเข้าใจอะไรแล้วมากขึ้นฟัง
"ไม่ผิดค่ะ พี่แอมไม่ผิดอายเองที่ไม่ดีที่เดาอะไรเอาเองโดยไม่ฟังอะไรเลย อายขอโทษค่ะ" อาคิราพูดหงอๆ
"งั้น....ทีนี้เราก็ดีกันแล้วใช่มั้ยคะ"แอมยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าน่าเอ็นดูของ
อาย อาคิราไม่ตอบอะไรเอาแต่พยักหน้าหงึกๆ
พร้อมส่งยิ้มหวานๆมาให้คุณหมอแทนคำตอบ
"เวลาน้องอายยิ้มน่ารักกว่าทำหน้าบึ้งตั้งเยอะที่หลังมีอะไรก็ถามพี่ตรงๆนะ
คะ
อย่าคิดเอาเองอีกล่ะ"แอมอธิบายแล้วขยับตัวให้บริกรสาววางจานสปาเก็ตตี้ไวท์
ซอสที่หอมหวนควันลอยหอมกรุ่น ลงตรงหน้าเธอและอาคิรา
อายทำตาโตพร้อมกลืนน้ำลายเมื่อได้กลิ่นหอมๆ ของอาหารตรงหน้า
"น่าทานมั้ยค่ะ"แอมอมยิ้มถาม
"ค่ะ"อายยิ้มกว้างตอบ แล้วทำท่าเตรียมพร้อม มือหนึ่งถือช้อนอีกมือหนึ่งถือส้อม
"แล้วบอกพี่ว่าไม่หิว นี่นะคะอาการของคนไม่หิวน่ะ"
"ก็....ตอนนั้นยังงอนอยู่นี่คะ แต่ตอนนี้หิวจะแย่แล้วค่ะ"อายยิ้มแหยๆหน้าแดงอธิบายเก้อๆ
"งั้นจะรออะไรละคะ ลองทานดูแล้วจะรู้ว่าอร่อยอย่างที่พี่แอมบอกมั๊ย"
เจ้าเส้นสีเหลืองอ่อนที่ชุ่มช่ำไปด้วยไวท์ซอสสีขาวอ่อนรสละมุนลิ้น
แค่คำแรกที่เข้าปาก อาคิราก็ทำตาโต ก่อนจะรีบตักเข้าปากอีกหลายคำ
แอมเองที่เป็นฝ่ายชวนเพราะบอกว่าหิวตอนแรกกลับยังไม่ได้แตะต้องอาหารตรงหน้า
เลยซักนิด
เธอเอาแต่มองสาวตัวเล็กที่กำลังทานอาหารตุ้ยๆโดยไม่ได้สังเกตเลยว่าเธอกำลัง
มองอยู่
"พี่แอมไม่ทานเหรอคะ"อาหารเกือบหมดจานอาคิราถึงจะได้เงยหน้าขึ้นมาจากจานตรงหน้า
“กำลังมองคนที่บอกว่าไม่หิว แต่ตั้งหน้าตั้งตาทานจนพี่แอมอิ่มแทนเลยอยู่นี่ไงคะ" แอมยิ้มบอกเบาๆ
"ตกลงว่าพี่แอมไม่ทาน???งั้น...."ว่าแล้วอาคิราก็แกล้งเอาส้อมของตัวเองแอบจิ้มลงไปบนแฮมชิ้นโตที่อยู่ในจานสปาเก็ตตี้ของแอม
"แน่ะ เดียวเถอะ...."แอมยิ้ม แล้วตีแปะลงไปบนหลังมือของคนมือไวที่กำลังแกล้งเธอ
"เจ็บน้าๆโห้ย...พี่แอมเห็นตัวผอมๆยังงี้มือหนักใช่ย่อยเลยนะคะเนี่ย"อายมุ่ยปากบอก บ่นอิดออดลูบหลังมือตัวเองที่เพิ่งโดนตีป้อยๆ
"ก็อยากแกล้งพี่แอมก่อนทำไมนี่คะไหนดูสิ..เจ็บมากมั้ย"แอมดึงมือของคนที่ทำ
ท่าแกล้งเหมือนจะเจ็บมากๆเสียเต็มปะดามาดูรอยแดงๆเป็นปื้นอยู่บนหลังมือขาวๆ
นั้น
แล้วเธอก็บรรจงเป่าเบาๆราวกับเป็นมนตร์วิเศษที่จะช่วยให้รอยแดงๆนั้นหายเจ็บ
ไปได้ อาคิราอายหน้าแดงจัดขึ้นมาอีกครั้ง เธอรู้ว่าคุณหมอเป็นคนอ่อนโยน
แต่ไม่คิดว่าความอ่อนโยนนั้นจะส่งผ่านมาถึงเธอได้มากมายขนาดนี้
"หายเจ็บแล้วนะคะ"แอมยิ้มแล้ววางมือข้างนั้นลงที่เดิม
อาคิราก้มหน้าแล้วพยักหน้าตอบรับงึกๆไม่อยากให้
แอมเห็นสีหน้าที่คงจะแดงแจ๋เพราะความเขินอายของเธอ
หลังจากนั้นอายก็เริ่มชวนคุณหมอคนสวยคุยถึงเรื่องต่างๆ
เรื่องหลานชายตัวแสบที่แกล้งลูกสาวของคุณหมอ
เรื่องของพี่ชายและไม่ลืมที่จะพูดถึงเพื่อนซี้อย่างศักดิ์ชัยอย่างสนุกแอ
มเองจะเป็นฝ่ายนั่งฟังเสียมากกว่าพูดด้วยใบหน้าที่อมยิ้มเธอเองจะตอบกลับ
เป็นบางครั้งที่มีเรื่องสงสัย
เรื่องราวประกอบท่าทางของอาคิราเรียกเสียงหัวเราะจากแอมได้อย่างมากมายชีวิต
ที่เคยมีแต่งานและลูกสาวดูเหมือนจะมีสิ่งใหม่มาเติมความสดใสให้เธออย่างไม่
รู้ตัว
"ค่ะจริงๆแล้วคืนนั้น
นังศักดิ์ก็โทรไปหาพี่เค้าเลย"อายกำลังเล่าเรื่องเกี่ยวกับผู้ชายอีกหนึ่งคน
ที่ศักดิ์ชัยแอบไปปิ๊งตอนออกค่ายกับภาควิชาที่ต่างจังหวัด
"แล้วผลเป็นยังไงค่ะ"แอมยิ้มหวานถาม
"จะเป็นยังไงล่ะคะ
พี่เค้าก็งงๆแล้วก็บอกนังศักดิ์ว่าเค้าไม่คิดจะชอบประเทืองนะสิคะ
อายนะต้องคอยเฝ้าอาการอยู่ตั้งสามวันแน่ะค่ะ
กลัวจะคิดมากแทบไม่ได้หลับได้นอนเลย เพราะมันเอาแต่ร้องไห้"
อาคิราร่ายยาวเล่าให้ฟังแล้วก้ถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆเมื่อพูดถึงเรื่องของ
เพื่อนรัก
"ฮัดชิ้ว!!สงสัยจะมีใครบ่นคิดถึงเรา ใครกันนะ
คิคิ"ศักดิ์ชัยกำลังนั่งสเก็ตชุดที่จะใช้ในละครเวทีของจินตนาจามออกมาแล้ว
พลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“น่าสงสารออกค่ะ น้องศักดิ์เค้าคงจะชอบผู้ชายคนนั้นมากๆเลยนะ"แอมออกความเห็น
"คนที่น่าสงสารอะ
อายตะหากมันนะเลือกที่ร้องไห้ที่ไหนไม่เลือกมันเลือกใต้ถุนบ้านแล้วยุงบ้าน
มันนะคะพี่แอมตัวยังงี้เลยอายอะเกือบถูกยุงหามไปตั้งไม่รู้กี่รอบ"อายยกนิ้ว
หัวแม่มือโชว์ให้เห็นว่ายุงน่ะมันตัวใหญ่แค่ไหน
แล้วทำทาขนลุกเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา
"ค่าๆน่าสงสาร"แอมยิ้มน้อยๆปลอบใจอาคิรา
Innocen't devil
เล่ม 1และ 2 ยังมีอยู่นะคะ
ราคาหนังสือ
Innocent's devil เล่ม1 185บาท
Innocent's devil เล่ม2 235บาท
1. สำหรับผู้สั่งซื้อ เล่ม 1 และเล่ม2 = 235(เล่ม2)+185(เล่ม1)+17ซองกันกระแทกC4+70(ลงทะเบียน)
รวมต้องชำระ 507 บาท
2.สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ เล่ม 2 = 235+17(ซองกันกระแทก)+50(ลงทะเบียน)
รวมต้องชำระ 302 บาท
3.สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ เล่ม 1 = 185+17+50
รวมต้องชำระ 252 บาท
Innocent's devil เล่ม1 185บาท
Innocent's devil เล่ม2 235บาท
1. สำหรับผู้สั่งซื้อ เล่ม 1 และเล่ม2 = 235(เล่ม2)+185(เล่ม1)+17ซองกันกระแทกC4+70(ลงทะเบียน)
รวมต้องชำระ 507 บาท
2.สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ เล่ม 2 = 235+17(ซองกันกระแทก)+50(ลงทะเบียน)
รวมต้องชำระ 302 บาท
3.สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ เล่ม 1 = 185+17+50
รวมต้องชำระ 252 บาท
วิธีการแจ้งโอนเงิน
เลขที่บัญชี 736-2-28423-0
>>>เช็คชื่อบัญชีดีๆนะคะระวังผิด(Morakot W.)<<<
ธนาคาร กสิกรไทย สาขาย่อยถนนรามคำแหง
--------------------------------
หมายเหตุ : หลังแจ้งการโอนเงินแล้ว
กรุณาอีเมล์บอก(subject : ค่าหนังสือ IND)
เมล์ aphrodite_eve@hotmail.com
1.ชื่อ -นามสกุลที่จะให้จัดส่ง
2หนังสือเล่มที่ต้องการซื้อ ยอดการโอน(ลงท้ายเป็นเศษสตางค์)
3.หลักฐานการโอนเงิน เวลาที่โอน สาขา หรืออะไรก็ได้ที่ระบุว่าท่านเป็นผู้โอนเงิน ทางผู้แต่งจะได้สามารถเช็คได้นะคะ
ปล. มีปัญหาอะไรสามารถ เมล์มาสอบถามได้นะคะ หรือจะทิ้งไว้ในfacebook ก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น