Innocen't devil
เล่ม 1และ 2 ยังมีอยู่นะคะ
 
ราคาหนังสือ
Innocent's devil เล่ม1 185บาท
Innocent's devil เล่ม2 235บาท

1. สำหรับผู้สั่งซื้อ เล่ม 1 และเล่ม2 = 235(เล่ม2)+185(เล่ม1)+17ซองกันกระแทกC4+70(ลงทะเบียน)
รวมต้องชำระ 507 บาท
2.สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ เล่ม 2 = 235+17(ซองกันกระแทก)+50(ลงทะเบียน)
รวมต้องชำระ 302 บาท
3.สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ เล่ม 1 = 185+17+50
รวมต้องชำระ 252  บาท

วิธีการแจ้งโอนเงิน
เลขที่บัญชี 736-2-28423-0
  >>>เช็คชื่อบัญชีดีๆนะคะระวังผิด(Morakot W.)<<<
ธนาคาร กสิกรไทย สาขาย่อยถนนรามคำแหง
--------------------------------
หมายเหตุ : หลังแจ้งการโอนเงินแล้ว
กรุณาอีเมล์บอก(subject : ค่าหนังสือ IND)
เมล์ aphrodite_eve@hotmail.com
1.ชื่อ -นามสกุลที่จะให้จัดส่ง
2หนังสือเล่มที่ต้องการซื้อ ยอดการโอน(ลงท้ายเป็นเศษสตางค์)
3.หลักฐานการโอนเงิน เวลาที่โอน สาขา หรืออะไรก็ได้ที่ระบุว่าท่านเป็นผู้โอนเงิน ทางผู้แต่งจะได้สามารถเช็คได้นะคะ
ปล. มีปัญหาอะไรสามารถ เมล์มาสอบถามได้นะคะ หรือจะทิ้งไว้ในfacebook ก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ
 
 
 

12.7.55

Captivated Clumsy 04

วันนี้เจ้าข้าวก็ลิงโลดร่าเริงเต็มที่ผิดกับอาสาวที่เดินซึม หน้างอเป็นจวักบอกบุญไม่รับตามเจ้าตัวเล็กขึ้นไปบนรถ
"อาอายไม่สบายอะป่าว"เจ้าตัวเล็กเอ่ยถามอาสาวที่นั่งหน้างออยู่เบาะหลัง
"เปล่า" อายตอบเนื่อยๆไม่สนใจมากนัก
"ปวดหัวเย้ย" เจ้าตัวเล็กยังถามต่อ
"เปล่า" อายตอบเหมือนเดิม
"ปวดฟัน..เอาถ้างั้น" ต้นข้าวกระแซะหันไปถามอีก
"บอกว่าเปล่าไง" อายชักเริ่มรำคานเหลือบมองเจ้าตัวเล็กแต่ก็ยังไม่มีอารมณ์จะพูดอะไรอยู่ดี
"เอ้าแล้วเป็นอารายเล่า อ้อหรือว่าถูกทิ้ง!!"เจ้าตัวเล็กยิงคำถามแทงใจดำอีกแล้ว อาริคาเหลืออด จนต้องเคาะศีระษะเล็กๆของหลานชายของตัวเองซักที
"อาอายแกล้งข้าวอีกแล้ว" ว่าแล้วก็ร้องไห้จ้า ฟ้องคุณอัครพล
"อายเราน่ะไม่เป็นอะไรแน่นะ" อาร์มเองก็สังเกตถึงความผิดปกติของน้องสาวตัวเองได้เช่นกันจึงลองถามดู
"ไม่เป็นไรค่ะพี่อาร์ม แค่มีเรื่องต้องคิดนิดหน่อยน่ะค่ะ" อายรีบปฎิเสธไม่อยากให้พี่ชายของตัวเองเป็นกังวลไปด้วย
"งั้นก็ดีแล้ว"อาร์มเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรเมื่อน้องสาวตอบแบบนั้น เค้าคงได้แต่เป็นห่วงและมองอยู่ห่างๆ
"เอาล่ะเจ้าข้าว วันนี้คุณพ่อเลิกงานเร็วเดียวจะมารับเราแต่วันนะ" อาร์มลูบหัวลูกชาย ขณะมาส่งที่หน้า รร
"งั้นพี่อารม์มารับเจ้าข้าวกลับบ้านก่อนก็ได้ค่ะอายมีซ้อมละครเวทีคงกลับดึก เดียวกลับกับศักดิ์ก็ได้ค่ะ" อายบอกพี่ชายเนื่อยๆ แล้วจูงมือเจ้าข้าวไปส่งให้คุณครูที่ยืนรับเด็กๆที่หน้าประตูโรงเรียนเหมือน ทุกวัน
"อืม เอางั้นก็แล้วกันนะ"อาร์มยิ้มแล้วลูบหัวน้องสาว อายยิ้มแห้งๆให้พี่ชายแล้วพยักหน้ารับ
"เห้อออ"ว่าแล้วอาคิราก็ถอนหายใจอีกรอบหลังจากส่งเจ้าข้าวแล้วเธอก็ชะเง้อ มองฝั่งตรงข้ามถนนที่คุณหมอคนสวยมาส่งน้องเมย์ที่ รร แต่สงสัยวันนี้จะมาเร็วไปเธอถึงไม่เห็นวี่แววของทั้งคุณแม่และคุณลูก

"อย่าไปชอบเค้า เค้ามีเจ้าของแล้วท่องไว้สิอายเอ๊ยยยย" อาริคาหงุดหงิดตัวเองที่ยังไม่ยอมลืมภาพรอยยิ้มหวานๆของคุณหมอ เธอเดินไปบ่นไปจนคนที่เดินอยู่แถวๆนั้นต้องหันมามองเธอ นั่นแหละถึงรู้ว่าตัวเองคงบ่นพึมพำเสียงดังไป
"น้องอาย น้องอายคะ น้องอาย" อาคิรากำลังหงุดหงิดจึงไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง คุณหมอคนสวยที่เมื่อส่งลูกสาวเสร็จก็มีอาการไม่ต่างจากสาวจอมโก๊ะ เธอเองก็พยายามมองหาอาคิราจนลูกสาวตัวเล็กเอ่ยถามว่าเธอกำลังมองหาอะไรอยู่ รึเปล่า แอมเลี้ยวรถกลับเพื่อจะมุ่งตรงไปที่ทำงานก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงตัวเล็กกำลัง เดินบ่นพึมพำเป็นหมีกินผึ้งหน้างอไม่มองทาง ก้มหน้างุดๆเหมือนกำลังหาของที่ตกอย่างไงอย่างงั้น เธอยิ้มแล้วจึงขับรถตามสาวตัวเล็กที่ดูเหมือนจะไม่สนใจอะไรรอบตัวเลยซักนิด เดียว

"ปิ๊นๆ" จนหมอแอมอดรนทนไม่ไหวที่อาคิราไม่หันมาสังเกตเธอซักที หมอแอมจึงแกล้งบีบแตรรถเสียงดังใส่ เมื่อนั้นแหละ อายจึงจะหันมามองด้วยความตกใจ "แว๊กกก"อายสะดุ้งเฮือก พร้อมกับกระโดดหลบราวกับตัวเองกำลังจะถูกรถชน เมื่อหันซ้ายหันขวาถึงระลึกว่า ตัวเองเดินอยู่บนฟุตบาทไม่ใช่กลางถนน เธอจึงยิ้มเก้อๆออกมา
ทันทีที่อายหันไปมองก็เห็นใบหน้าสวยกำลังยิ้มและเรียกเธอ อายยิ้มกว้างด้วยความดีใจ แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่เธอเพิ่งจะบอกตัวเองว่า คุณหมอมีเจ้าของแล้ว แถมนัดแรกคุณหมอยังผิดนัดอีก นึกขึ้นได้มาแบบนั้น อาคิราก็หุบยิ้มลงในทันที แถมยังค้อนขวับแจกคุณหมอคนสวยเสียอีก อายทำเป็นไม่มอง แล้วเดินต่อไป โดยไม่สนใจจะหันมามองรถคันโตสีน้ำเงินเข้มนั้นอีก

“น้องอาย น้องอายคะ” คุณหมอแอมเมื่อเห็นใบหน้าหวานๆที่กำลังยิ้มให้เธอแล้วอยู่ดีๆก็เปลี่ยนไป เป็นสลดแถมยังค้อนให้เธออีก ก็นึกสงสัยว่า อาคิราคงกำลังไม่พอใจเธออยู่แน่ๆ แอมยิ้มแล้วขับรถตามร่างเล็กๆที่เหมือนจงใจจะเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น เหมือนต้องการจะหนีเธอไป

“น้องอายคะ พี่แอมขอโทษนะคะ” คุณหมอขับรถเทียบฟุตบาท ขับช้าๆตามสาวขี้งอนที่เพียงแอบมองเธอก่อนจะเชิดหน้าหนี แล้วเร่งฝีเท้าเร็วกว่าเดิม แอมยิ้มขำกับการกระทำเหมือนเด็กๆของอาคิรา จนในที่สุด หมอแอมก็ขับรถเลยไปโดยไม่หันมามองอาคิราอีก

อายหน้าสียหรือเธอจะเล่นตัวมากเกินไป เธอนึกก่อนหยุดเดินแล้วนิ่วหน้าเล็กๆมองท้ายรถสีน้ำเงินคันสวยที่ไม่มีวี่แววว่าจะจอดหรือชะลอ
“เชอะ”เธอรู้สึกน้อยใจ แต่ก็ดีแล้วที่คุณหมอไม่สนใจเธออีก เธอจะได้ตัดใจได้ไวๆแต่ทั้งๆที่คิดแบบนั้นแล้ว ภายในจิตใจกลับรู้สึกสับสนมากกว่าเดิม อายถอนหายใจเบาๆแล้วจึงเดินต่อไป เวลาไม่ถึง10นาที เธอก็เดินมาถึงมหาวิทยาลัยด้วยใบหน้าบูดบึ้ง แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นท้ายรถยนต์สีน้ำเงินจอดรออยู่ข้างหน้า พร้อมร่างสูงเพรียวที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆยิ่งเมื่อเห็นหน้าเธอรอยยิ้มของคุณ หมอก็ดูจะกว้างขึ้นอีก

ภาย ในใจของอาคิราไม่ต้องบอกก็คงจะรู้ว่าดีใจแค่ไหน แต่ไม่ได้เธอจะมายอมจำนนเพียงเพราะรอยยิ้มหวานๆนั้นไม่ได้ อาคิราคิดก่อนจะตีหน้าบึ้งเหมือนเดิน แล้วทำเป็นไม่สนใจ จะเดินผ่านรถคันงามรวมทั้งเจ้าของแสนสวยที่ยืนยิ้มให้เธอ

“น้องอายคะ พี่แอมขอโทษจริงๆน้า”แอมเดินอ้อมรถคันโตมาดักหน้าคนขี้งอนที่ยังก้มหน้าไม่สนใจจะมองเธอ
“ไม่ต้อง ขอโทษอายหรอกค่ะ เรื่องแค่นี้ไม่ได้สำคัญอะไร” เธอมุ่นหน้าเบ้ปาก พูดประชดประชันได้แสบนัก แอมถอนหายใจอย่างหน่ายๆ แล้วพยายามจะมองดวงตาคู่หวานที่ยังพยายามจะหาทางหลบสายตาของเธอ

“ถึงน้องอายจะเห็นว่ามันไม่สำคัญ แต่มันสำคัญสำหรับพี่นี่คะ”แอมย่อตัวลงอีกเพื่อจะมองหน้าของอาคิราที่ยังก้มหน้ามองพื้น
“สำคัญด้วยเหรอคะ” อายยังไม่ยอมเลิกงอนง่ายๆเธอแสร้งพูดออกไปอีก ทั้งๆที่ก็รู้ว่าคุณหมอพยายามจะง้อเธอ
“สำคัญสิคะ สำคัญมากด้วยหรือน้องอายคิดว่ามันไม่สำคัญจริงๆ” ว่าแล้วแอมก็ตีสีหน้าเศร้าให้คนขี้งอนเห็นบ้าง
“คือ....ไม่ใช่ว่า...เอ่อ ช่างเถอะค่ะ”อายทำหน้าไม่ถูก คำพูดกับความรู้สึกของเธอกำลังสับสนยุ่งเหยิง ยิ่งได้เห็นสีหน้าของแอมที่ดูเศร้าไปนั่น ยิ่งทำให้เธอใจหายวูบรู้สึกใจอ่อนยวบขึ้นมาทันที

“ฟังพี่แอมอธิบายก่อนนะคะ” แอมยังหน้าเศร้า พยายามจะอธิบายให้สาวขี้งอนฟัง
“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ”ไม่ได้ เธอจะมาใจอ่อนตอนนี้ไม่ได้ต้องตัดใจ อายฝืนใจพูดออกมาอย่างยากลำบาก แล้วพยายามจะเดินหนี เธอคิดว่าถ้ายังคุยกันอยู่แบบนี้เธอต้องใจอ่อนแน่ๆ
“น้องอาย อย่าทำแบบนี้สิค่ะ” ในที่สุดแอมก็ตัดสินใจคว้าข้อมือเล็กๆของสาวหน้าหวานไว้ ทั้งๆที่เธอเองไม่ใช่คนที่ง้อคนเก่งเท่าไรแต่กับผู้หญิงคนนี้ ทำไมเธอกลับรู้สึกแคร์มากถึงเพียงนี้ แอมนึกสงสัยตัวเอง

"ปล่อย อายจะเข้ามหาลัย"
"ไม่ปล่อย ก็น้องอายไม่ยอมฟังอะไรเลยนี่คะ"แอมนิ่วหน้าเมื่อดูเหมือนว่าเด็กขึ้งอนคนนี้จะไม่ยอมฟังเธออธิบายอะไรเลย
"ปะ ปล่อยก่อนสิคะคนมองกันใหญ่แล้ว" อายหน้าแดงแล้วลดเสียงลงกระซิบบอกแอมเบาๆเมื่อเห็นว่าคนแถวนั่นเริ่มแตกตื่นหันมามองพวกเธอ
"ไม่ค่ะ จนกว่าน้องอายจะยอมฟัง" แอมไม่พูดอะไรอีก ยังกำข้อมือเล็กๆนั่นไว้แน่นดูท่าเด็กขี้งอนคนนี้จะใจแข็งกว่าที่คิด คงไม่ดีแน่ขืนยังไม่ทำอะไรซักอย่าง แอมจึงตัดสินใจรั้งข้อมือเล็กๆที่ยังพยายามจะขัดขืนเธออยู่ถูลู่ถูกัง พาไปที่รถพร้อมกับดันตัวผู้หญิงขี้งอนให้เข้าไปนั่งหน้างุ้มอยู่ในรถ
"พี่แอมมมม ปล่อยอายนะ"อาคิราตะโกนโวกเวกขณะที่แอมปิดประตูและล็อค

"พี่แอมว่าเราไปหาที่นั่งคุยกันให้รู้เรื่องดีกว่า" แอมบึ้งหน้าแล้วไม่ฟังเสียงโวยวายของอายอีก เธอรีบสตาท์รถแล้วขับออกไปจากที่นั่นอย่างเร็วที่สุด "พี่แอมวันนี้อายมีเรียนนะ"อาคิราหน้าแดงพยายามจะอ้างเหตุผลให้แอมยอมปล่อย เธอลง แต่ทั้งๆที่คำพูดกับการกระทำจะแสดงถึงความไม่พอใจ แต่ในใจของเธอกลับเป็นตรงกันข้ามเสียนี่

แอมยังคงไม่พูดอะไรเพ่งสมาธิไปที่การขับรถมากกว่า เธอคิดว่าอยู่เฉยๆแล้วเดียวอายคงจะเลิกโวยวายไปเอง หากเธอไม่คิดจะต่อล้อต่อเถียงด้วย แล้วก็เป็นอย่างที่เธอคิด เมื่ออายเห็นว่าคุณหมอคนสวยไม่สนใจที่เธอกำลังประท้วงเอะอะเสียงดัง อายก็หยุด(เหนื่อยมากกว่า) เหลือเพียงแค่อาการนั่งหน้างอเป็นม้าหมากรุกแทน



ระยะเวลาเงียบๆที่ผ่านไปอย่างเชื่องช้าเพราะการจราจรที่แสนแออัดของเมือง หลวง ทำให้คนสองคนมีเวลาพิจารณาตัวเองและอีกฝ่ายมากขึ้น หลังจากที่นั่งปั้นหน้าเป็นม้าหมากรุกอยู่นาน อายก็เริ่มหันมามองคุณหมอคนสวยที่เป็นคนขับรถแทน วันนี้คุณหมอใส่ชุดสบายๆ เสื้อคลุมพอดีตัวสีเหลืองอ่อนสดใสทับเสื้อลูกไม้สีขาวเบาบางกับกระโปรงจีบสี ดำที่สั้นเลยเข่าขึ้นมาเล็กน้อยเผยให้เห็นเรียวขาขาวนวลเล่นเอาอายใจเต้นไม่ เป็นส่ำ ใบหน้าหวานที่มีการแต่งหน้าเพียงอ่อนๆ ลิปสติกสีหวานมองไปมองมาอายก็ยิ้มออกจนคนที่ถูกจ้องคงจะรู้สึกได้ แอมหันมายิ้มหวานให้อาคิรา

"หายโกธรแล้วเหรอคะ"แอมทักเมื่อเห็นว่าอาคิราเลิกตีหน้ายักษ์แล้วมองเธอด้วย รอยยิ้ม แต่ก็อย่างที่บอกว่าอาคิราน่ะเป็นคนที่อ่านออกง่ายมากถึงมากที่สุด เธอสะดุ้งเล็กน้อย ไม่รู้ว่าคุณหมอเองก็กำลังมองเธอ เธอจึงแกล้งตีหน้างอให้คุณหมอคนสวยดูอีกรอบ แอมอมยิ้มไม่ต้องการจะเร่งรัดอะไรอีก ในเมื่อคนตัวเล็กอยากงอนนัก เธอก็จะปล่อยให้งอนเสียให้เต็มที่แอมจึงหันไปสนใจกับหนังสือเล่มเล็กที่มัก จะพกไว้อ่านบนรถเวลาที่การจราจรคับคั่งแบบนี้แทน

คนหนึ่งอ่านหนังสือไปเรื่อยๆอย่างไม่เป็นทุกข์เป็นร้อน แต่อีกคนเริ่มมีอาการลุกลนให้เห็น อาคิราขยับตัวแล้วขยับอีก ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่ยอมปริปากออกมาเสียที จนในที่สุดก็คงจะทนไม่ไหว ยอมทิ้งอาการงอนชั่วคราวเอ่ยปากถามหมอแอมในที่สุด
"พี่แอมจะพาอายไปไหน" ประโยคที่ออกมาจากริมฝีปากบางๆนั้น แอมละสายตาจากหนังสือที่อ่าน แล้หันมาสนใจสาวข้างๆแทน
"ไม่รู้สิคะ พี่แอมแค่อยากให้น้องอายใจเย็นลงแล้วยอมฟังเรื่องที่พี่แอมจะพูดก็เท่านั้น เองแต่น้องอายไม่ยอมฟังอะไรเลย พี่แอมถึงต้องทำแบบนี้ไงคะ" แอมอธิบายพร้อมยิ้มรอดูว่าสาวหน้าหวานจะหาข้อแก้ตัวว่าอะไร

"ก็...อายแค่"อาคิราพูดแผ่วเบาใจหนึ่งก็รู้หรอกนะว่าตัวเองเอาแต่ใจและไม่ ฟังเหตุผล แต่จะให้พูดออกไปได้อย่างไรว่าเธองอนที่หมอแอมผิดนัด แถมยังน้อยใจที่หมอแอมขับรถหนีไปโดยไม่สนใจเธออีก นึกแล้วเธอก็ทำใจแข็งนิ่งเงียบไปอีก
"แค่อะไรคะ"แอมยิ้มแล้วถามอีก
"ไม่รู้ค่ะ"อายหน้าแดงแล้วตอบปัดไม่สนใจ
"แล้วน้องอายพร้อมจะฟังพี่อธิบายรึยังคะ" แอมตั้งคำถามถามคนขี้งอนอีกครั้ง
"ค่ะ"อายพยักหน้าหงึกๆเข้าใจ
"แต่ว่า...พี่แอมชักหิวแล้วสิ เดียวเราไปหาอะไรทานกันก่อนนะคะ ถือว่าเป็นการเลี้ยงชดเชยที่เมื่อวานพี่แอมผิดนัดกับน้องอายด้วย โอเคมั้ยคะ" แอมอธิบายพร้อมเริ่มมองหาทางที่จะยูเทินร์รถกลับ

"แล้ววันนี้พี่แอม ไม่ไปทำงานเหรอคะ"อายที่คงจะหายงอนจริงๆแล้วหันมาถามอย่างสงสัย
"อืมมมม ก็มีนะคะ แต่ทำไงได้ล่ะคะพี่มีอย่างอื่นที่สำคัญกว่าที่ต้องทำนี่"แอมอมยิ้มแล้ว เหลือบมองสาวหน้าหวานที่กำลังก้มหน้างุดด้วยความอาย
"วันนี้พี่เวรดึกค่ะ มีเวลาอยู่กับคนขี้งอนได้ทั้งวันล่ะค่ะ"แอมยิ้มหัวเราะอีกครั้งเมื่อเห็นอายเม้มปากมองค้อนเธอเข้าให้
"พี่แอมอะ"อายพึมพำกับตัวเองเบาๆรู้สึกอิ่มเอิบขึ้นมาในใจอย่างบอกไม่ถูกที่หมอแอมเห็นว่าเธอสำคัญถึงขนาดนี้
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังสนุกกับการพูดคุย หลังจากแม่สาวขี้งอนเลิกงอนได้ไม่นาน เจ้าเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋ากระโกรงของอาคิราก็แผดเสียงจ้าขึ้นมา
"แก๊ๆแก." คงจะเป็นใครไปเสียไม่ได้แล้วละกับการทักทายแบบนี้หนึ่งเดียวเท่านั้นศักดิ์ชัยนั่นเองที่โทรมา
"โอ๊ย!!!!!.เบาๆก็ได้ หูจะแตกแล้ว ว่าไงมีไร" อายนึกรำคานเพื่อนรักขึ้นมาในทันทีที่บังอาจมาขัดจังหวะการสนทนาระหว่างเธอ และคุณหมอคนสวย

"หนอยยยยยหล่อนคนเค้าอุส่าห์เป็นห่วงโทรมา กล้าทำเสียงแบบนี้ใส่ชั้นนะย่ะ"ศักดิ์ชัยถมึงตึงขึ้นมาบ้างที่อายพูดราวกับรำคานเธอ
"แฮะๆ ขอโต้ดจ่ะ นางสาวแซมมี่สุดสวยมีอะไรเหรอเจ้าคะ"อายยิ้มเก้อๆส่งให้คุณหมอแอมที่ทำท่า ทางแปลกใจ ที่เห็นลีลาดุเด็ดเผ็ดมันในการโต้ตอบระหว่างตัวเธอกับศักดิ์ชัย
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่แอม.เพื่อนสนิทอายเอง"อายยิ้มหวานให้พร้อมกับป้องปากลดเสียงคุยกับศักดิ์ชัยลง
"นี่หล่อนอยู่ไหนย่ะรู้มั้ยว่าที่คณะเค้าวุ่นกันขนาดไหนโดยเฉพาะยัยจินตนาน่ะเป็นลมไปแล้ว"ศักดิ์ชัยจีบปากจีบคอเล่าเรื่อง
"เป็นลม….?.!?แล้วมันเกี่ยวอะไรกับชั้นล่ะ"อาคิราขมวดคิ้วอย่างสงสัย
"แล้วเมื่อเช้าหล่อนไปก่อเรื่องอะไรไว้ล่ะย่ะ"ศักดิ์ชัยถามต่อ
"เมื่อเช้า..??.เปล่านิ" อายยังนึกไม่ออกจริงๆว่าเมื่อเช้าเธอไปก่อเหตุอะไรไว้
"ยังจะมาเปล่า เมื่อเช้ามีคนเห็นแกโดนลากขึ้นรถของใครก็ไม่รู้ไปนิย่ะ อกอิแป้นจะแตก หล่อนรู้มั้ยชั้นล่ะเป็นห่วงนึกว่าแกจะถูกจับส่งขายมาเลซะแล้วนะนั่น" ศักดิ์ชัยบ่นน้ำเสียงกระเง้ากระงอด

"อ๋อ...เรื่องนั้นเองไม่มีอะไรหรอก ตอนนี้ขั้นอยู่กับพี่แอมน่ะ"อายป้องปากพูดเบาๆ
"ต๊ายตายๆ แล้วหล่อนไปอยู่กับคุณหมอได้ยังไงย่ะ เกิดอะไรขึ้นเล่ามาซะดีๆ"ศักดิ์ชัยโพลงตาโต เอามือแนบหน้าอกราวกับตกใจ
"ไว้ก่อนได้ม่ะ ชั้นอยู่บนรถเนี่ย นะแกนะ ขอชั้นอยู่กับพี่แอมตามลำพังซักพักนะ"อายกระซิบกระซาบบอกเพื่อนเบาๆ
"แล้วทางนี้จะเอายังไง ยัยจินตนาโวยวายนึกว่าแกโดนอุ้มไปแล้วจะไปแจ้งตำรวจอยู่เนี่ยแกจะให้ชั้นทำ ยังไงย่ะ"ศักดิ์ชัยตะคอกเสียงกรอกลงไปอย่างเหลือดอด
"เพื่อนรัก ศักดิ์เพื่อนร๊ากกก ชั้นรู้แกจัดการได้ชิมี๊ๆ"อาคิราทำเสียงอ้อน
"ย่ะๆ งั้นเดียวชั้นจะเคลียเรื่องที่นี่เอง ส่วนแกน่ะรู้แล้วใช่มั้ยว่าหมอแอมน่ะเค้ามีคนของเค้าอยู่แล้ว แกควรจะทำยังไงชั้นคงไม่บอกนะอาย" ศักดิ์ชัยบอกเสียงเรียบรู้อยู่แล้วว่าอาคิราดีใจขนาดไหนที่ได้อยู่ใกล้ๆคุณ หมอคนสวยแต่เธอก็อยากให้เพื่อน ยอมรับความจริง อย่าทนฝืนปล่อยความรู้สึกไปมากกว่านี้
"อือขอบใจแกมากนะที่เตือนชั้น ชั้นจะพยายาม"อายพึมพำบอกเพื่อนเบาๆก่อนที่สีหน้าจะกลับมาสลดเหมือนเดิม

"แล้วเรื่องละครเวทีน่ะยังไงแกคงหนีไม่พ้นแล้วล่ะ แกโดดวิชายัยจินตนาจนเวลาเรียนจะไม่พอแล้วนะอาย ยังไงก็รีบๆกลับมาซ้อมละครเวทีด้วยก่อนที่จะถูกปรับตกล่ะ เข้าใจนะ"ศักดิ์ชัยเตือนเพื่อนอีกครั้งด้วยความหวังดี
"อือ"อายฝืนยิ้มแล้ววางสายไปในที่สุด
"น้องอายเป็นอะไรรึเปล่าคะ เมื่อกี้ยังเห็นอารมณ์ดีอยู่เลย แล้วนี่หน้าเศร้าอีกแล้ว"แอมสงสัย เธอชักจะเริ่มตามอารมณ์ขึ้นๆลงๆของอาคิราไม่ทัน
"วันนี้อายคงจะอยู่กับพี่แอมทั้งวันไม่ได้ หรอกนะคะ"อาคิราก้มหน้าพูดเบาๆ
"อ้าวทำไมล่ะค่ะ"แอมนิ่วหน้าเล็กๆเอียงคอถามอย่างสงสัย เมื่อดูเหมือนว่า สาวน้อยข้างๆเธอเริ่มจะปรับสภาพเข้าสู่โหมดงอนอีกครั้ง

"ก็เดียวตอนบ่ายพี่แอมก็ต้องไปรับลูกสาว อายหมายถึงน้องเมย์....ไม่ใช่เหรอคะ..แล้วอายเองก็คงต้องอยู่ซ้อมละครเวที แล้วไหนจะเอ่อ....แฟนของพี่แอม คุณพ่อของน้องเมย์อีกอายไม่รบกวนดีกว่าค่ะ พี่แอมจอดรถตรงป้ายรถเมล์หน้าก็ได้ค่ะเดียวอายกลับเองได้"อายพูดตะกุกตะกัก ทันทีที่นึกขึ้นมาได้ ถึงเรื่องครอบครัวของคุณหมอ เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรแบบนี้กับแอม อย่าว่าแต่ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำเลย ไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดด้วยซ้ำอายเริ่มรู้สึกผิดและน้อยใจตัวเองขึ้นมา
แอมยิ้มมุมปากพอจะเข้าใจว่าอายต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ แล้วเข้าใจว่าอาคิราช่างเป็นผู้หญิงที่ทึกทักเดาเรื่องราวเอาเองได้เก่งนัก

"น้องอายอยากทานอะไรคะ"แอมหันไปยิ้มหวานถามคนหน้างอ
"พี่แอมไม่ได้ฟังที่อายพูดเลยหรือไงค่ะ"อาคิราโพล่งออกมาเสียงดัง ทั้งๆที่ตัวเธอเองกำลังพยายามทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่แท้ๆ แต่คุณหมอคนสวยดูจะไม่ให้ความร่วมมือเอาเสียเลย "ฟังสิคะ ก็ฟังมาตลอดทาง"แอมยังอมยิ้มดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนผิดกับคนข้างๆที่เริ่มมีอาการ กระเง้ากระงอดให้เห็น

"ก็แล้วทำไมถึง"อาคิราทำท่าจะพูดต่อแค่แอมก็แย่งพูดเสียก่อน
"อาหารอิตาเลี่ยนก็แล้วกันนะคะ พี่แอมกำลังอยากทานสปาเก็ตตี้อยู่พอดี โอเคน้า"แอมเองก็ดูจะสนุกกับการได้แกล้งคนขี้งอน เธอแกล้งทำเป็นไม่สนใจเสียนี่ ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าสู่ที่จอดรถของห้างใหญ่ใจกลางเมือง

"พี่แอมทำไมไม่ยอมฟังที่อายพูดบ้างเลยละคะ"อาคิราขึ้นเสียงตวาดเสียงดังใส่คุณหมออย่างเหลืออดแล้วหายใจฟึดฟัดความความไม่พอใจ
"น้องอายจะหยุดโวยวายเองดีๆหรือจะให้พี่ทำให้น้องอายหยุดคะ" ท่าทางปั้นปึงดูจะไม่ได้มีผลต่อใบหน้าหวานๆของคุณหมอเลยซักนิด เธอเอี้ยวตัวเข้าไปหาอาคิราและโน้มหน้าหวานของตัวเองเข้าหาใบหน้าของอาคิรา ราวกับต้องการจะบอกว่าเธอจะหยุดปากช่างพูดนั่นเสีย....ด้วยริมฝีปากของตัว เอง

"พี่แอม"อาคิราหน้าแดงเมื่อเห็นริมฝีปากบางของคุณหมออยู่ห่างจากใบหน้าเธอ ไม่กี่นิ้วจนสามารถรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่กำลังเป่ารดอยู่บนใบหน้าของ เธอ
"พี่ไม่ใช่คนพูดเล่นนะ เอาล่ะลงมาค่ะแล้วไปหาอะไรทานกัน"แอมพูดเบาๆหลังจากคนขี้งอนหยุดโวยวาย แล้วถอยห่างออกมาอยู่ในระยะเดิม และเธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าการที่ได้แกล้งแหย่สาวขี้งอนข้างๆจะทำให้ใบ หน้าของตัวเองรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาได้ แถมยังนึกอยากจะทำอย่างที่ตัวเองพูดออกไปเสียนี่

แอมลงจากรถสีน้ำเงินเข้มคันหรู..แต่สาวที่นั่งข้างๆกลับยังนั่งเฉยหน้างอไม่ ยอมลงมาจากรถเสียที แอมยิ้มก่อนจะอ้อมไปเปิดประตูรถให้อาคิรา
"ลงมาสิค่ะ พี่แอมหิวจะแย่อยู่แล้ว"เสียงหวานๆทำให้อายเหลือบมองคุณหมอจอมเผด็จการ ก่อนที่เธอจะยอมทำตามอย่างว่าง่ายแล้วเดินหน้างอตามร่างเพรียวที่ดูคล่อง แคล่วนั้นไปอย่างช้าๆภายในใจก็คิดถึงท่าทางของคุณหมอที่ทำราวกับต้องการจะ จูบเธอจริงๆอย่างนั้น แค่นี้อาคิราก็เกิดอาการหน้าแดงจัดขึ้นมาอีกครั้ง

"เร็วๆสิค่ะ"แอมหันมามองคนที่เดินต้อยๆตามเธอก่อนจะเดินวกกลับมาหาแล้วจูง มือเล็กๆของอายให้เดินไปพร้อมกับเธออาคิราเองก็เอาแต่ก้มหน้ามองพื้นไม่ยอม หันมามองคนที่กำลังจูงมือเธอ
"พี่แอมปล่อยเถอะค่ะ อายเดินเองได้"แม้ว่าจะเข้ามาอยู่ภายในตัวห้างสรรพสินค้าชื่อดังแล้วก็ตามที แต่ดูเหมือนคุณหมอคนสวยยังเกาะกุมมือเล็กๆของอาคิราอยู่ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ
"เดียวน้องอายวิ่งหนี พี่ก็แย่สิค่ะขอไม่ปล่อยแล้วกันนะ"แอมพูดยิ้มๆแล้วไกวมือข้างที่จับมือของอายไว้ราวกับเด็กๆ
"พี่แอม"อายพึมพำเบาๆแล้วปล่อยให้มือข้างนั้น ถูกแอมกุมไว้ต่อไปโดยไม่คิดจะขัดขืนอีก

"ศักดิ์ชัย ติดต่ออายได้มั๊ย"จินตนานิ่วหน้า พร้อมกับยิงคำถามรัวๆใส่เพื่อนสนิทของอาย ศักดิ์ชันหันไปมองแล้วยิ้มหวาน ก่อนจะค่อยๆบอกว่า "อ้อ!!!!ไม่มีไรหร๊อกค่าจารย์คงเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันมากกว่า คนที่มารับยัยอายเมื่อเช้าก็คนรู้จักกันน่ะค่ะ."ศักดิ์ชัยจีบปากจีบคอบอก
"ใคร!!!.คนรู้จักอาย ชั้นก็รู้จักเกือบหมด เป็นไปไม่ได้ต้องมีอะไรแน่ๆ บอกมาเดียวนี้นะศักดิ์ชัย"เมื่อมีเรื่องราวเกี่ยวกับอาคิราที่ดูจะหลงหูหลง ตาเธอไปนั่นย่อมทำให้เธอทนไม่ได้จินตนารีบตรงดิ่งเข้าไปเขย่าแขนของศักดิ์ ชัยไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ศักดิ์ชัยเล่า

"แหมอาจารย์ขา หนูจะไปรู้ได้ยังไงล่ะค่ะ ก็เจ้าตัวเขาบอกมาอย่างนั้นว่าไม่เป็นไรๆนี่ค๊า"ศักดิ์ชัยพยายามอธิบายแต่ จินตนาเองกลับยังไม่อยากเชื่อทุกคำพูดของศักดิ์ชัยเธอรู้ดีว่าเพื่อนรักของ อาคิราคนนี้ พยายามจะเป็นก้างขวางคอเธอมาตลอดแทบจะทุกครั้งที่เธออยู่กับอาคิราตามลำพัง จะต้องมีเหตุให้ศักดิ์ชัยเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ
"ชั้นไม่เชื่อ เอาเบอร์มือถืออาคิรามาสิ ชั้นจะพูดเอง"จินตนาว่าพลางพยายามจะแย่งมือถือสีชมพูสดใสของศักดิ์ชัยไป
"อาจารย์ขา จะโทรไปให้ลำบากทำไมล่ะค่ะ อีกอย่างโทรไปตอนนี้อาคิราจะไม่พอใจซะเปล่าๆน้าค๊าๆ คิคิ"ศักดิ์ชัยแกล้งพูดยั่วให้จินตนาโมโหเล่น
"เธอหมายความว่าอะไรพูดมานะ"ใบหน้าสวยคมเริ่มบูดบึ้งอย่างไม่พอใจตลอดระยะ เวลาสี่ปีที่เธอเที่ยวพยายามทำทุกวิถีทางให้อาคิรามาเป็นของเธอให้ได้เธอจะ ไม่ยอมให้เรื่องแค่นี้ มาทำลายทุกอย่างที่เธอวางไว้เด็ดขาด
"แหมๆเรื่องแค่นี้ยังต้องให้หนูอธิบายอีกเหรอคะ ตอนนี้ยัยอายกับอยู่กับคนสำคัญของเค้า แฟนน่ะค่ะอาจารย์รู้จักม๊ายคำว่าแฟนน่ะค่าๆ แล้วที่เห็นทะเลาะกันเมื่อเช้าคงจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อยแต่ที่โทร ไปถามเมื่อกี้ก็โอเคแล้วนี่ค่ะ แหมๆ อาจารย์จะโทรไปเป็นก้างขวางคอคนเค้าจะกระหนุงกระหนิงกันทำไมล่ะค๊า คิ คิ"ศักดิ์ชัยลอบยิ้มหัวเราะสะใจอย่างบอกไม่ถูกแม้ว่าเรื่องที่เธอพูดจะเป็น เรื่องแหลสดกันซึ่งๆหน้า แต่ในอีกด้านหนึ่งก็ดีแล้วยัยอาจารย์คนนี้จะได้ตัดใจเลิกมาวุ่นวายกับเพื่อน ของเธอซักที

"ไม่จริง ชั้นไม่เชื่ออย่ามาโกหก!!"จินตนาหน้าร้อนวูบ พยายามควบคุมอารมณ์และความรู้สึกไม่พอใจไว้ภายใน ทั้งๆที่ในใจเธออยากจะกรีดร้องออกมาเสียให้มันรู้แล้วรู้รอด
"แล้วอาจารย์จะเดือดร้อนทำไมคะเนี่ย แค่ลูกศิษย์หายไปกะแฟนของตัวเองแค่เนี้ย"ศักดิ์ชัยยังไม่หยุดแหลเธอกำลัง สนุกกับการได้เห็นสีหน้าทุกข์ใจของจินตนาแถมยังจงใจเน้นเสียงคำว่าลูกศิษย์ ให้จินตนาหน้าหงายอีกต่างหาก

"ชั้นก็แค่กังวลก็คนที่มาเล่าเขาบอกว่าอาคิราถูกฉุดขึ้นรถไป แถมอาคิราเองเวลาเรียนวิชาชั้นก็แทบจะไม่พออยู่แล้วคำตอบเรื่องจะแสดงละคร เวทีของชั้นก็ยังไม่ได้ตอบ ยังไงเธอก็ช่วยเตือนๆเพื่อนเธอหน่อยแล้วกันว่าถ้าไม่อยากตกวิชานี้ก็ให้มา เรียนบ้าง"ว่าแล้วจินตนาก็หันหลังควับเดินค้อนศักดิ์ชัยไปดูไม่ค่อยพอใจนัก

"แหมๆ อยากให้มาเรียนหรืออยากจับเพื่อนชั้นกดกันแน่ย่ะ เชอะ"ศักดิ์ชัยแอบนินทาเบาๆ ก่อนจะมองค้อนให้เข้ามั้ง
"น้องอายจะทานอะไรดีคะ"เมื่อลากสาวขี้งอนมานั่งหน้างอในร้านอาหารอิตาเลี่ยน บรรยากาศสบายๆแล้วคุณหมอ ก็ยิ้มหวานให้อาคิราพร้อมกับเอ่ยถามว่าคนขี้งอนที่นั่งตรงกันข้ามอยากจะทาน อะไร
"อายไม่หิว"อาคิรามองค้อนตอบเสียงแข็งแล้วเอาหลอดน้ำคนน้ำในแก้วเล่น แอมยิ้มหวานให้แล้วหันไปบอกบริกรที่คอยรับเมนู ว่าขออาหารเหมือนกัน2ชุดแทน
"ลองทานดูนะคะ สปาเก็ตตี้ ไวท์ซอสร้านนี้อร่อยมากเลย พี่แอมเคยพาน้องเมย์มาทานด้วยกันบ่อยๆ"ว่าแล้วก็ส่งยิ้มหวานๆให้คนหน้างออีก ครั้งโดยไม่คิดจะสนใจปฏิกริยาของคนขี้งอน ที่เอาแต่จะคอยส่งค้อนให้เธอ

"พี่แอมอยากจะอธิบายอะไรก็ว่ามาค่ะ ตอนบ่ายอายไม่ว่าง"ยิ่งคุณหมอทำไม่สนใจเธอมากเท่าไรอาคิราก็ยิ่งมีอาการ กระเง้ากระงอดให้เห็นหนักขึ้น คุณหมอคิดอะไรอยู่ทั้งๆที่ตัวเองก็มีครอบครัวแล้วมีลูกสาวที่น่ารักขนาดนั้น แถมสามีก็คง..อายพยายามจะไม่คิดสลัดภาพเจ้าของของคุณหมอที่อยู่ในหัวเธอไป แต่ยิ่งพยายามมากเท่าไรความอิจฉากับมีมากขึ้นๆ จนตัวเธอเองไม่อยากจะอยู่ในสภาพนี้แบบตอนนี้แล้ว

"น้องอายอยากรู้เรื่องไหนก่อนล่ะคะ"แอมอมยิ้มนั่งเท้าคางมองหน้าบึ้งๆของอาคิรา
"ก็เรื่องที่พี่แอมบอกว่าจะอธิบายไงคะจะเรื่องไหนอีก"อายว่างอนๆ
"อ้อเรื่องนั้น ค่ะคือพี่แอมมีเคสผ่าตัดด่วนก่อนเวลาที่น้องอายนัดไว้ไม่กี่นาทีเองค่ะ แล้วพี่แอมก็พยายามจะโทรติดต่อกลับไปแล้วแต่ดูเหมือนจะไม่มีใครรับสาย"แอมอ ธิบายเบาๆให้คนที่ทำท่าตั้งใจฟังราวกับกำลังเลคเชอร์อยู่ในห้องเรียนก็ไม่ ปานฟัง

"เหรอคะ อายก็ว่าอยู่ว่าทำไมถึงมีมิสคอลจากพี่แอมเยอะจัง ตอนนั้นอายกำลังร้องเพลงอยู่ค่ะ"ทันทีที่รู้เหตุผลว่าทำไมคุณหมอถึงผิดนัด เธอ อาคิราก็ฉีกยิ้มราวกับเด็กขึ้นมาเอาง่ายๆคงจะไม่ต้องย้ำอีกครั้งว่าอาคิรา น่ะช่างเป็นผู้หญิงที่....
"ร้องเพลง? ถึงว่าล่ะ ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของพี่ ที่แท้ก็มัวแต่สนุกอยู่นี่เอง"ว่าแล้วแอมก็นึกอยากจะแกล้งคนขี้งอนบ้าง เธอแกล้งตีแก้มป่องใส่อาคิราราวกับรู้สึกผิดหวังสุดๆที่อาคิราไม่สนใจจะรับ โทรศัพท์ของเธอ

"มะ..มะไม่ใช่นะคะพี่แอมคือ พอดีเจ้าของร้าน พี่ต้นน่ะค่ะเค้าชอบเสียงของอายเลยอยากให้อายไปร้องเพลงประจำที่ร้านน่ะค่ะ แล้วตอนที่พี่แอมโทรมาคงจะเป็นตอนที่อายร้องเพลงอยู่พอดี ก็เลยก็เลยไม่ได้ยิน พี่แอมอย่าเข้าใจผิดสิคะ"อาคิราลนลานพยายามจะอธิบายให้หมอแอมที่แกล้งนั่ง หน้างอฟัง

"ถ้าอย่างนั้น อายก็อย่าเข้าใจผิดเรื่องของพี่บ้างสิค่ะ"แอมทนไม่ไหวที่เห็นอาการน่ารักๆ ของอาคิราจนเธออดยิ้มไม่ได้ต้องเลิกแกล้งงอนแล้วอธิบายให้อาคิราฟังบ้าง
“อายขอโทษค่ะ"อาคิราหน้าแดงแล้วยิ้มเก้อๆส่งให้คุณหมอ
"ไม่เห็นต้องขอโทษเลยน้องอายไม่ได้ทำอะไรผิดนี่คะ พี่ซะอีกที่ผิดที่ผิดนัดน้องอาย"แอมยิ้มน้อยๆอธิบายให้คนตัวเล็กที่ดูเหมือน จะเข้าใจอะไรแล้วมากขึ้นฟัง
"ไม่ผิดค่ะ พี่แอมไม่ผิดอายเองที่ไม่ดีที่เดาอะไรเอาเองโดยไม่ฟังอะไรเลย อายขอโทษค่ะ" อาคิราพูดหงอๆ
"งั้น....ทีนี้เราก็ดีกันแล้วใช่มั้ยคะ"แอมยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าน่าเอ็นดูของ อาย อาคิราไม่ตอบอะไรเอาแต่พยักหน้าหงึกๆ พร้อมส่งยิ้มหวานๆมาให้คุณหมอแทนคำตอบ

"เวลาน้องอายยิ้มน่ารักกว่าทำหน้าบึ้งตั้งเยอะที่หลังมีอะไรก็ถามพี่ตรงๆนะ คะ อย่าคิดเอาเองอีกล่ะ"แอมอธิบายแล้วขยับตัวให้บริกรสาววางจานสปาเก็ตตี้ไวท์ ซอสที่หอมหวนควันลอยหอมกรุ่น ลงตรงหน้าเธอและอาคิรา อายทำตาโตพร้อมกลืนน้ำลายเมื่อได้กลิ่นหอมๆ ของอาหารตรงหน้า
"น่าทานมั้ยค่ะ"แอมอมยิ้มถาม

"ค่ะ"อายยิ้มกว้างตอบ แล้วทำท่าเตรียมพร้อม มือหนึ่งถือช้อนอีกมือหนึ่งถือส้อม
"แล้วบอกพี่ว่าไม่หิว นี่นะคะอาการของคนไม่หิวน่ะ"
"ก็....ตอนนั้นยังงอนอยู่นี่คะ แต่ตอนนี้หิวจะแย่แล้วค่ะ"อายยิ้มแหยๆหน้าแดงอธิบายเก้อๆ
"งั้นจะรออะไรละคะ ลองทานดูแล้วจะรู้ว่าอร่อยอย่างที่พี่แอมบอกมั๊ย" เจ้าเส้นสีเหลืองอ่อนที่ชุ่มช่ำไปด้วยไวท์ซอสสีขาวอ่อนรสละมุนลิ้น แค่คำแรกที่เข้าปาก อาคิราก็ทำตาโต ก่อนจะรีบตักเข้าปากอีกหลายคำ แอมเองที่เป็นฝ่ายชวนเพราะบอกว่าหิวตอนแรกกลับยังไม่ได้แตะต้องอาหารตรงหน้า เลยซักนิด เธอเอาแต่มองสาวตัวเล็กที่กำลังทานอาหารตุ้ยๆโดยไม่ได้สังเกตเลยว่าเธอกำลัง มองอยู่

"พี่แอมไม่ทานเหรอคะ"อาหารเกือบหมดจานอาคิราถึงจะได้เงยหน้าขึ้นมาจากจานตรงหน้า
“กำลังมองคนที่บอกว่าไม่หิว แต่ตั้งหน้าตั้งตาทานจนพี่แอมอิ่มแทนเลยอยู่นี่ไงคะ" แอมยิ้มบอกเบาๆ

"ตกลงว่าพี่แอมไม่ทาน???งั้น...."ว่าแล้วอาคิราก็แกล้งเอาส้อมของตัวเองแอบจิ้มลงไปบนแฮมชิ้นโตที่อยู่ในจานสปาเก็ตตี้ของแอม
"แน่ะ เดียวเถอะ...."แอมยิ้ม แล้วตีแปะลงไปบนหลังมือของคนมือไวที่กำลังแกล้งเธอ
"เจ็บน้าๆโห้ย...พี่แอมเห็นตัวผอมๆยังงี้มือหนักใช่ย่อยเลยนะคะเนี่ย"อายมุ่ยปากบอก บ่นอิดออดลูบหลังมือตัวเองที่เพิ่งโดนตีป้อยๆ

"ก็อยากแกล้งพี่แอมก่อนทำไมนี่คะไหนดูสิ..เจ็บมากมั้ย"แอมดึงมือของคนที่ทำ ท่าแกล้งเหมือนจะเจ็บมากๆเสียเต็มปะดามาดูรอยแดงๆเป็นปื้นอยู่บนหลังมือขาวๆ นั้น แล้วเธอก็บรรจงเป่าเบาๆราวกับเป็นมนตร์วิเศษที่จะช่วยให้รอยแดงๆนั้นหายเจ็บ ไปได้ อาคิราอายหน้าแดงจัดขึ้นมาอีกครั้ง เธอรู้ว่าคุณหมอเป็นคนอ่อนโยน แต่ไม่คิดว่าความอ่อนโยนนั้นจะส่งผ่านมาถึงเธอได้มากมายขนาดนี้

"หายเจ็บแล้วนะคะ"แอมยิ้มแล้ววางมือข้างนั้นลงที่เดิม อาคิราก้มหน้าแล้วพยักหน้าตอบรับงึกๆไม่อยากให้ แอมเห็นสีหน้าที่คงจะแดงแจ๋เพราะความเขินอายของเธอ

หลังจากนั้นอายก็เริ่มชวนคุณหมอคนสวยคุยถึงเรื่องต่างๆ เรื่องหลานชายตัวแสบที่แกล้งลูกสาวของคุณหมอ เรื่องของพี่ชายและไม่ลืมที่จะพูดถึงเพื่อนซี้อย่างศักดิ์ชัยอย่างสนุกแอ มเองจะเป็นฝ่ายนั่งฟังเสียมากกว่าพูดด้วยใบหน้าที่อมยิ้มเธอเองจะตอบกลับ เป็นบางครั้งที่มีเรื่องสงสัย เรื่องราวประกอบท่าทางของอาคิราเรียกเสียงหัวเราะจากแอมได้อย่างมากมายชีวิต ที่เคยมีแต่งานและลูกสาวดูเหมือนจะมีสิ่งใหม่มาเติมความสดใสให้เธออย่างไม่ รู้ตัว

"ค่ะจริงๆแล้วคืนนั้น นังศักดิ์ก็โทรไปหาพี่เค้าเลย"อายกำลังเล่าเรื่องเกี่ยวกับผู้ชายอีกหนึ่งคน ที่ศักดิ์ชัยแอบไปปิ๊งตอนออกค่ายกับภาควิชาที่ต่างจังหวัด
"แล้วผลเป็นยังไงค่ะ"แอมยิ้มหวานถาม
"จะเป็นยังไงล่ะคะ พี่เค้าก็งงๆแล้วก็บอกนังศักดิ์ว่าเค้าไม่คิดจะชอบประเทืองนะสิคะ อายนะต้องคอยเฝ้าอาการอยู่ตั้งสามวันแน่ะค่ะ กลัวจะคิดมากแทบไม่ได้หลับได้นอนเลย เพราะมันเอาแต่ร้องไห้" อาคิราร่ายยาวเล่าให้ฟังแล้วก้ถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆเมื่อพูดถึงเรื่องของ เพื่อนรัก

"ฮัดชิ้ว!!สงสัยจะมีใครบ่นคิดถึงเรา ใครกันนะ คิคิ"ศักดิ์ชัยกำลังนั่งสเก็ตชุดที่จะใช้ในละครเวทีของจินตนาจามออกมาแล้ว พลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“น่าสงสารออกค่ะ น้องศักดิ์เค้าคงจะชอบผู้ชายคนนั้นมากๆเลยนะ"แอมออกความเห็น

"คนที่น่าสงสารอะ อายตะหากมันนะเลือกที่ร้องไห้ที่ไหนไม่เลือกมันเลือกใต้ถุนบ้านแล้วยุงบ้าน มันนะคะพี่แอมตัวยังงี้เลยอายอะเกือบถูกยุงหามไปตั้งไม่รู้กี่รอบ"อายยกนิ้ว หัวแม่มือโชว์ให้เห็นว่ายุงน่ะมันตัวใหญ่แค่ไหน แล้วทำทาขนลุกเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา
"ค่าๆน่าสงสาร"แอมยิ้มน้อยๆปลอบใจอาคิรา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น