03
แอ๊บอย่างเธอต้องเจออย่างฉัน!
.......................................................................................................................
“ใจร้ายจัง
ฟาดูเป็นคนแบบนั้นเหรอ” เสียงหวานๆกรอกมาตามสาย
“อืม” สาวสวยตอบกลับไปแทบไม่ต้องเสียเวลาคิดให้ยากเลย
เข้าถึงตัวยากซะจริ้ง...หึ
แต่แค่นี้คนอย่าง กุลธิดาไม่ถอยง่ายๆหรอก
“ยังไม่ทันจะเป็นเพื่อนกันเลย
ก็คิดแบบนั้นแล้ว มิ้นเป็นคนที่ชอบตัดสินคนอื่นที่ภายนอกเหรอ”
“ใช่ โดยเฉพาะพวกที่ชอบเข้าหาเพื่อผลประโยชน์” เสียงเรียบบอก
นัยน์ตาสีเทาหรี่ลง
ดันฉลาดอีก
จะทำตัวเข้าหายากไปถึงไหน! รึจะชอบของแปลกอย่างยัยแมวน้ำ
ยัยโซดา?
ฟาแค่นยิ้ม
“ฟาก็แค่อยากเป็นเพื่อนกับมิ้นจริงๆนะ
ไม่เคยคิดอะไรเลย”
“เชื่อก็โง่แล้ว”
มิ้นบอกไปตรงๆ
แต่ทำคนปลายสายแทบลงไปดิ้นตรงนั้น
ให้ตายสิไม่อยากจะใช้วิธีนี้เลย
!
สาวหน้าหวานยังถือสายอยู่แต่เดินไปที่ชั้นวางของกระจุกกระจิกในห้องตัวเองแล้วหยิบพิมเสนน้ำขวดใสมาเปิดฝาเบาๆ
“....?”
ความเงียบทำให้สาวสวยขมวดคิ้วชนกัน
“ฟา...ยังอยู่ไหมนิ ฟา”
เลยถามด้วยความสงสัย
ซักพักก็มีเสียงสะอื้นดังมาตามสาย
ทำเอาคนฟังหงุดหงิดขึ้นกว่าเดิม
ลงทุนมาก
ถึงขนาดบีบน้ำตาเลยเรอะ ยัยแอ๊บแตกเอ้ย!
“จะร้องไห้ทำไม?”
มิ้นเบ้ปาก
ต่อให้ขนมารยาทมาร้อยพันเล่มเกวียนก็ไม่ทางหลงกลให้หรอก ฝันไปเถอะ
“ฟา...ฮึก..ฮึก..ก็แค่..อยากเป็นเพื่อนกับมิ้นจริงๆ..ฮึกๆ”
ริมฝีปากบางเยียดยิ้มรังเกียจ
น่ามอบรางวัลออสก้าให้ยัยนี่จริงๆ
“เอาเถอะ
เห็นแก่ความพยายามลงทุนบีบน้ำตาซะขนาดนั้น อยากทำอะไรก็ทำละกัน”
ฟาอยากจะโยนมือถือทิ้งลงถังขยะอีกแล้ว
คนบ้าอะไรน่าตบจริงๆ
มือเล็กๆยกขึ้นปาดน้ำตาที่พยายามเค้นออกมาด้วยการใช้พิมเสนน้ำป้ายตาช่วยแทบตาย
“อะ..อืม
ขอบคุณนะ...ที่ยอมเป็นเพื่อนกับฟา แล้วเจอกันที่ม.นะ” พูดจบคนตัวเล็กก็ตัดสายไปดื้อๆแบบนั้นทำให้สาวสวยหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ
“แอ๊บแตกยังงี้ดูสิจะมาไม้ไหน”
........................................................................................................................
หลังเลิกสแตนวันต่อมา
ฟาก็ทำตามแผนที่วางไว้ทันที เริ่มจากไปตีสนิทกับแมวน้ำและโซดา
สาวอวบเข้ากับคนง่ายเลยเปิดใจรับฟาเข้ากลุ่มได้ไม่ยาก
แต่กับสาวเซอร์พูดน้อยยอมรับเพราะเพื่อนยอมรับก่อน
ส่วนสาวสวยรู้อยู่แล้วได้แต่เยียดยิ้มใส่
“วันนี้มีไนท์บลาซ่าด้วยไปเดินกันไหม
ฟาอยากไปเดินกับมิ้น”
พูดไม่พูดเปล่าคนตัวเล็กตรงเข้ามาควงแขนมิ้นชนิดแนบชิดจนหน้าอกหน้าใจที่ไม่มากไม่น้อยแต่ชวนมองถบียดแขนเรียวเข้าเต็มๆ
ใบหน้าสวยกระตุกยิ้ม
ว่าล่ะต้องมาไม้นี้ แอ๊บแตก+อ่อยสุดๆ สูตรสำเร็จมาเลย
“ไปกับมิ้นต้องสนุกแน่ๆเลย” สาวหน้าหวานโปรยยิ้มแถมยังซุกลงบนไหล่สาวผมแดงอีกต่างหาก
ทำเอาแมวน้ำกับโซดาหันมามองตากัน
“ไม่รู้สิ” มิ้นบอกเสียงเรียบแต่ก็ไม่สะบัดตัวออกปล่อยให้อีกฝ่ายเกาะแกะตามใจชอบ
…สี่สาวติดสินใจนั่งรถประจำทางมายังตลาดนัดกลางคืน
ไนท์บลาซ่าที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเท่าไร
ฟากอดแขนมิ้นแน่นชวนคุยสารพัดถึงเจ้าของผมสีเพลิงจะไม่คุยตอบก็เถอะ
เสียงใสยังพยายามพูดนั่นพูดนี้อยู่ตลอดเวลา ฝ่ายแมวน้ำเดินอยู่ข้างหลังกับโซดาก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย
ไนท์บลาซ่าแห่งนี้จัดวางโซนเครื่องประดับเอาไว้ด้านหน้า
ถัดมาจึงเป็นเสื้อผ้า
ส่วนโซนอาหารอยู่ท้ายสุดถูกจัดแบ่งประเภทไว้อย่างชัดเจนทั้งอาหารคาวและหวานในราคาเบาๆ
จึงมีนักเรียน นักศึกษา
ตลอดจนครอบครัวมาที่นี่จนคนแน่นเต็มทุกวันที่มีตลาด
ฟาเริ่มรู้สึกเซ็งที่คนข้างๆไม่มีปฏิกิริยาอะไรด้วยเลยจึงยอมปล่อยมือเลิกควงแขนมิ้นแล้วหันมาสนใจกับร้านขายเครื่องประดับแนวหวานๆ
คนตัวเล็กถอนหายใจ
ก็รู้ตัวดีหรอกว่าตัวเองหน้าหวานใส่ของแนวกุ๊กกิ๊กทีไรเหมาะทุกที
พอเป็นอิสระนัยน์ตาสีเทาก็มองไปทางร้านขายเครื่องประดับเท่ๆแนวๆแล้วเดินไปทันที
จนแมวน้ำต้องลากโซดาวิ่งตามทิ้งฟาที่ไม่รู้เรื่องเอาไว้ตรงนั้น
เจ้าของร้านเป็นสาวเท่ทำผมเป็นทรงเดธร็อคทั้งหัว
ผิวสีเข้มๆเข้ากับเสื้อกล้ามสีดำพอดีตัวชายขาดหน่อยๆกับยีนส์ขาดขาแนวๆ
สิ้นค้าในร้านเน้นเครื่องเงินแนวเท่ๆที่สามารถใส่ได้ทั้งชายและหญิง
สาวสวยค่อยย่อตัวลงนั่งอย่างระวังเพราะใส่ทรงเอผ่าข้างมา
นัยน์ตาสีเทามองไปทางสร้อยไม้กางเขนเงิน
ตัวสร้อยออกแบบมาเป็นโซ่เล็กๆคล้องเรียงกัน
ส่วนตัวจี้เป็นไม้กางเขนผิวเรียบขัดมันวาวไม่มีลายความยาวราวๆสีชอล์ก1แท่ง
นิ้วเรียวหยิบขึ้นมาแล้วหันมาหาสาวเซอร์ที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“โซดามานี่หน่อย”
โซดาเลิกคิ้วแต่ก็ยอมเดินเข้ามาหา
มิ้นจัดการสวมสร้อยกางเขนให้เพื่อนทันที
ทำเอาคนได้รับทำหน้าแปลกใจ สาวอวบที่มองอยู่ก็ทำหน้าแปลกใจไม่แพ้กัน
“คิดแล้วว่าต้องเหมาะจริงๆด้วย” เจ้าของเรียวปากบางยิ้มก่อนจะหันไปหาคนขาย
“พี่คะเอาเส้นนี้คะเท่าไรคะ”
“850คะน้อง เงินอย่างดี”
“ค่ะ” มิ้นหยิบกระเป๋าสตางค์สุดหรูขึ้นมาหยิบแบงค์พันส่งให้คนขายแล้วรับเงินทอนมา
“มิ้น ซื้อให้ทำไมนิ?” สาวเซอร์ถาม
“ก็เห็นมันเหมาะดีเลยอยากซื้อให้
นึกซะว่าเป็นของขวัญที่ได้เป็นเพื่อนกันก็แล้วกัน” คนให้บอกยิ้มๆแต่โซดากลับทำหน้านิ่งๆ
“อืม
แต่คราวหลังอย่าทำอีกนะ เราไม่ชอบโดนมัดมือชก” คำพูดตรงๆชนิดขวานผ่าซากทำเอาสาวสวยหัวเราะร่า
“โอเคๆเข้าใจแล้ว
แล้วแมวน้ำอยากได้อะไรไหม”
สาวอวบส่ายหน้าไปมา
“ของเราขอเป็นหมึกย่าง10ไม้ดีกว่า” ก่อนจะยิ้มกว้าง
“อย่างยังแมวยักษ์นี่ต้องของกิน
เครื่องประดับอะไรไม่เอากับเค้าหรอก รู้จักคำว่ารักสวยรักงามที่ไหนกันเล่า”
“ได้ทีเอาใหญ่ๆ ไอ้ตัวพูดน้อย”
มิ้นอมยิ้มกับการพูดเล่นเชิงหยอกเย้าของเพื่อนทั้งสอง
ฝ่ายคนที่โดนทิ้งไว้ร้านขายเครื่องประดับแนวน่ารักออกอาการหน้างอขึ้นมาทันที
คนตัวเล็กเดินจ้ำๆไปหาทั้งสาม
ริมฝีปากอิ่มอยากจะต่อว่าแทบตายแต่ดันเผลอไปมองสินค้าสุดแนวซะได้
ตาโตๆไล่มองแหวนเท่ๆ นาฬิกาเท่ๆ สร้อยเท่ๆ
ถึงเจ้าตัวจะหน้าหวานแต่ไม่มีใครรู้ว่า
สาวหวานใสคนนี้กลับชอบลุคเท่ๆอยู่เหมือนกัน อยากลองแต่งดูด้วยซ้ำแต่ไม่อยากโดนคนมองว่าไม่เข้ากับตัวเอง
“หน้าหวานๆแต่มามองของเท่ๆนี่นะ”
นิ้วเรียวเชยคางมนขึ้นให้สบสายตาด้วย
โดนนัยน์ตาสีเทาจ้องแบบไม่ทันตั้งตัวแถมยังจ้องชนิดเอาจริงเอาจังจนใบหน้าใสแดงระเรื่อขึ้นมา
ฟารีบเบนหน้าหนียิ้มน้อยๆ ถึงจะแค่ไม่กี่วินาทีแต่มิ้นก้ได้เห็นรอยยิ้มที่มาจากใจไร้การเสแสร้ง
อ่าว!
เวลาไม่แอ๊บก็น่ารักดีนี่นา
เรียวปากบางคลี่ยิ้มกับภาพที่เห็นตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว
“คะ..คงงั้น
ฟาไม่เหมาะกับของเท่ๆหรอก” พอรู้สึกตัวสาวหน้าหวานก็รีบถอยออกห่างทันที
“หืม เดี๋ยวนะ” จู่ๆมิ้นก็เดินไปจ้องเครื่องประดับเงินจนไปสะดุดตาเข้ากับสร้อยเงินเส้นหนึ่ง
ตัวสร้อยเป็นเส้นเล็กๆดูเก๋ไปอีกแบบ
ส่วนตัวจี้เป็นรูปโบว์ลงลายสีหวานตัดกับลายสีเข้มๆ
ดูเท่แต่แอบหวานไปด้วย
“พี่คะเส้นนี้เท่าไรคะ
รูปโบว์นี่อ่ะค่ะ”
นิ้มเรียวชี้ไปที่สร้อย
คราวนี้สาวหวานทำหน้างง
ส่วนโซดาได้แต่ถอนหายใจโดยมีแมวน้ำหัวเราะอยู่ข้างๆ
“พันสามจ๊ะน้อง
แพงตรงลงเงาที่ลายนี่แหละ”
“อ่ะ ถูกกว่าที่คิดแฮะ
เอานี่ล่ะค่ะ”
ทันทีที่จ่ายเงินเสร็จมิ้นก็เดินมาสวมให้ฟาทันทีโดยที่คนตัวเล็กไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำไป
“หวานหน่อยๆแต่ก็ดูแอบเท่ได้นิดนึงล่ะนะ”
อวดรวยซะจริ้ง
หมั่นไส้ จะรับไว้ก็แล้วกันถือซะว่าน้ำใจ
ฟาฉีกยิ้มให้ดูดีที่สุด
“จะดีเหรอซื้อให้ฟาแบบนี้
ฟาอาจจะใส่ไม่เหมาะเท่าไรหรอก”
เรียวปากบางเยียดยิ้ม
“พอใจจะซื้อก็ซื้อให้หมดแหละ
แมวน้ำจะเอาไรนะหมึกย่างเหรอ ไปโซนอาหารกัน”
บอกด้วยเสียงเรียบๆแต่แสดงถึงความเหนือกว่าจนสาวตัวเล็กได้แต่กำมือแน่น
หึ
เมินกันได้ก็แค่ตอนนี้เท่านั้นล่ะ มิ้น!
คอยดูเถอะติดเราเมื่อไรจะผลาญให้หมดตัวเลย
ฟายิ้มที่มุมปากแล้วรีบเข้าไปควงแขนสาวสวยทันที
“คนมันเยอะ ฟากลัวหลง
จูงมือหน่อยสิมิ้น”
เสียงใสออดอ้อนเต็มที่
“โตๆกันแล้วนี่นา”
คำพูดตรงๆเล่นเอาคนมั่นใจสูงอย่างฟาแกว่งได้ไม่น้อยเลย
“ฟากลัวหลงจริงๆนะ”
รอยยิ้มหวานๆกับเสียงอ้อนๆที่ทำให้คนรอบข้างชื่นชมมาแล้วถูกงัดมามาใช้กับสาวหัวแดง
“ก็ได้ มา”
นิ้มเรียวคว้าข้อมือเล็กๆ
“บอกไว้ก่อนนะว่ามิ้นเดินไว
ตามให้ทันก็แล้วกัน”
แล้วก็เป็นตามนั้นเมื่อคนสวยเล่นเดินตามสบายใจฉันโดยไม่สนใจเลยว่ากำลังจูงมือใครอยู่
ฝ่ายสาวหน้าหวานทั้งเดินทั้งวิ่งตาม ในใจแทบอยากจะกรี๊ดด้วยความโมโห
แต่ก็ได้ยิ้มหวานๆให้
.......................................................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น